บทความ

เพิ่มวันลาคลอด 120 วัน สามีลาช่วยคู่สมรสได้

ในวันที่ 15 กันยายน 2568 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของสิทธิแรงงานในประเทศไทย เมื่อ ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเอกฉันท์ในวาระที่ 3 เห็นชอบผ่านร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับใหม่) ด้วยคะแนน 124 ต่อ 0 เสียง และงดออกเสียง 5 เสียง โดยมี สาระสำคัญคือการเพิ่มสิทธิลาคลอดให้แรงงานหญิงเป็น 120 วัน พร้อมเพิ่มสิทธิให้ คู่สมรสลาช่วยเลี้ยงดูลูกได้ 15 วันโดยได้รับค่าจ้าง

เพิ่มวันลาคลอด 120 วัน สามีลาช่วยคู่สมรสได้

เพิ่มวันลาคลอด 120 วัน สามีลาช่วยคู่สมรสได้

ลาคลอด 120 วัน เพิ่มวัน เพิ่มคุณภาพชีวิต

ก่อนหน้านี้ แรงงานหญิงมีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรได้ 98 วัน โดยได้รับค่าจ้างจากนายจ้างไม่เกิน 45 วัน และส่วนที่เหลือรับจากประกันสังคม แต่ตาม ร่างกฎหมายฉบับใหม่ ลูกจ้างหญิงจะได้รับสิทธิดังนี้

เพิ่มวันลาคลอด 120 วัน สามีลาช่วยคู่สมรสได้

เพิ่มวันลาคลอด 120 วัน สามีลาช่วยคู่สมรสได้


  • ลาคลอดได้ 120 วัน (รวมวันหยุดนักขัตฤกษ์)
  • ได้รับค่าจ้าง 60 วันแรกจากนายจ้าง
  • ประกันสังคมจ่ายเพิ่มอีก 60 วัน

มาตรานี้ถือเป็นการแบ่งภาระระหว่างนายจ้างและรัฐได้อย่างสมดุล และสอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน รวมถึงข้อเสนอขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอจากสมาชิกวุฒิสภาหลายท่าน เช่น

  • เสนอให้เพิ่มวันลาเป็น 180 วัน เพื่อสอดคล้องกับคำแนะนำของ WHO และ UNICEF ที่สนับสนุนให้ทารกได้กินนมแม่ 6 เดือน
  • เสนอให้วันลาเพิ่มขึ้นตามอายุงาน เช่น
  • ทำงานเกิน 1 ปี ลาได้ 120 วัน
  • เกิน 5 ปี ลาได้ 150 วัน
  • เกิน 10 ปี ลาได้ 180 วัน

แม้ข้อเสนอดังกล่าวยังไม่ผ่านความเห็นชอบในครั้งนี้ แต่ก็สะท้อนเสียงเรียกร้องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานหญิงในระยะยาว

คู่สมรสลาได้ 15 วัน ยกระดับบทบาท “พ่อ” ในครอบครัว

หนึ่งในสาระใหม่ที่ถูกบรรจุในกฎหมายฉบับนี้คือ สิทธิของคู่สมรสในการลาช่วยเหลือภริยาหลังคลอดบุตรเป็นเวลา 15 วัน พร้อมรับค่าจ้างเต็มจำนวน โดยไม่มีการหักวันลาอื่น ซึ่งเป็นแนวทางที่สนับสนุน บทบาทของบิดา ในการดูแลลูกอย่างเท่าเทียม สร้างความสมดุลในครอบครัว และส่งเสริมสุขภาพจิตของทั้งพ่อแม่

อย่างไรก็ดี ประเด็นนี้ถูกตั้งคำถามจาก สว. อังคณา นีละไพจิตร ซึ่งเสนอว่า:

การให้สิทธิเฉพาะ “คู่สมรส” ที่จดทะเบียนตามกฎหมาย เป็นการจำกัดสิทธิที่ไม่ครอบคลุมความเป็นจริงของสังคมไทย

เธอให้เหตุผลว่าในปัจจุบัน:

  • ประชาชนไทยจำนวนมากอยู่กินกันโดยไม่จดทะเบียนสมรส
  • แม่เลี้ยงเดี่ยว, แรงงานข้ามชาติ, คนชาติพันธุ์ อาจถูกกันออกจากสิทธิ
  • ผัวเมียในกลุ่มแรงงาน มักไม่มีโอกาสหรือช่องทางจดทะเบียนตามกฎหมาย
  • การจำกัดสิทธิโดยทะเบียนสมรส อาจละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาค

เธอยกตัวอย่างจากต่างประเทศ เช่น สวีเดน สเปน และอิตาลี ที่เปิดโอกาสให้สิทธิการลาแก่ “ผู้ดูแลเด็ก” ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นคู่สมรสตามกฎหมาย โดยให้ความสำคัญกับ ประโยชน์สูงสุดของเด็กและสุขภาวะของครอบครัวเป็นหลัก

ขยายคุ้มครองถึงแรงงานจ้างเหมาบริการภาครัฐ

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้คือการ เพิ่ม “มาตรา 4/1” เพื่อขยายสิทธิให้กับ แรงงานจ้างเหมาบริการในหน่วยงานรัฐ ให้ได้รับสิทธิต่าง ๆ เช่น:

  • ค่าตอบแทนตามเวลา
  • วันลาป่วย ลาคลอด ลาพักผ่อน
  • วันหยุดตามประเพณี
  • สิทธิไม่ต่ำกว่าที่กำหนดใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน

แม้จะมีเสียงคัดค้านว่าอาจเกิดการขัดกันของกฎหมาย โดยเฉพาะกับ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ แต่ที่ประชุมยังคงมีมติ เห็นชอบให้เพิ่มมาตรา 4/1 ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น

ความพยายามผลักดันให้ลาคลอด 180 วัน

ตลอดการอภิปราย สมาชิกวุฒิสภาหลายคนยังได้แสดงความห่วงใยต่อ สุขภาวะของแม่และเด็ก พร้อมเรียกร้องให้พิจารณาขยายวันลาเป็น 180 วัน โดยมีข้อเสนอเชิงสาธารณสุขและสังคมที่น่าสนใจ เช่น:

  • สนับสนุนให้ทารกได้กินนมแม่ครบ 6 เดือน
  • ป้องกันภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
  • ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อนมผง
  • ส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกายและสมองของเด็ก
  • เป็นแรงจูงใจให้คนมีลูกมากขึ้น แก้ปัญหาสังคมผู้สูงวัย

แม้ยังไม่สามารถผลักดันให้ผ่านในครั้งนี้ แต่เสียงสะท้อนเหล่านี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ไขกฎหมายให้ครอบคลุมและทันสมัยมากยิ่งขึ้นในอนาคต

ก้าวต่อไป รอกฎกระทรวง และแนวทางปฏิบัติ

ภายหลังการผ่านวาระ 3 ของร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือ

  1. ออก กฎกระทรวงแรงงาน เพื่อกำหนดรายละเอียดของการใช้สิทธิ
  2. คาดว่าจะใช้เวลาราว 1 ปี พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ
  3. หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ต้องเตรียมงบประมาณและปรับแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมาย

การเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคมที่เท่าเทียม

ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ปี 2568 นี้ เป็นอีกก้าวสำคัญของการสร้างระบบสวัสดิการที่ตอบโจทย์ทั้งแรงงานหญิง คู่สมรส และแรงงานในภาครัฐ

แม้ยังมีข้อถกเถียงหลายประเด็น เช่น การจำกัดสิทธิให้เฉพาะคู่สมรสตามทะเบียน การเพิ่มวันลา 180 วัน หรือการรองรับครอบครัวหลากหลายรูปแบบ แต่สิ่งเหล่านี้คือ “บทสนทนาเชิงนโยบาย” ที่จะต้องดำเนินต่อไปอย่างมีเหตุผลและหลักฐานรองรับ

ในขณะที่ภาครัฐควรพิจารณามาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมแก่ภาคเอกชน เช่น การลดหย่อนภาษี หรือกองทุนสนับสนุน SMEs เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง โดยไม่เป็นภาระต่อผู้ประกอบการรายย่อย

เพราะการให้สิทธิลาคลอดและการสนับสนุนครอบครัว ไม่ใช่เพียงเรื่องของ “แรงงาน” แต่คือรากฐานของสังคมที่ยั่งยืน


ที่มา : สว.ลงมติเอกฉันท์ ผ่านร่างแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน เพิ่มสิทธิลาคลอด 120 วัน

Topprofessional And Development

สถาบันฝึกอบรมและที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์และองค์กร บริการให้คำปรึกษาด้านระบบ ISO แบบครบวงจรด้วยหลักสูตรคุณภาพอาจารย์ผู้สอนมากด้วยประสบการณ์

วันทำการ ( จันทร์ - เสาร์ เวลา 8:00 - 17:00 น. )

ติดตามเรา

icon-facebookicon-lineicon-youtubeicon-tiktok
Copyright 2023 © HERMES Digital Marketing . All Rights Reserved