บทความ

เทคนิคการสอนงานแบบ OJT (On the job training) สู่การเป็นผู้สอนงานมืออาชีพ

หากคุณกำลังมองหาเทคนิคในการสอนงานแบบ OJT ให้ผู้เรียนเป็นผู้สอนงานมืออาชีพ บทความนี้ HRODTHAI.COM นำเสนอแนวทางเบื้องต้นในกระบวนการนี้

เทคนิคการสอนงานแบบ OJT (On the job training)

เทคนิคการสอนงานแบบ OJT (On the job training)

เทคนิคการสอนงานแบบ OJT (On the job training) สู่การเป็นผู้สอนงานมืออาชีพ

การสอนงานแบบ OJT (On the job training) เป็นวิธีการฝึกอบรมพนักงานที่นิยมใช้กันมาก โดยเน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติงานจริง เทคนิคการสอนงานแบบ OJT ที่ดี จะช่วยให้พนักงานเรียนรู้ทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้พนักงานปรับตัวเข้ากับองค์กรได้รวดเร็วขึ้น

สมรรถนะ/ ขีดความสามารถ (Competency)

สมรรถนะ/ ขีดความสามารถ (Competency)

สมรรถนะ/ ขีดความสามารถ (Competency)

สมรรถนะ/ ขีดความสามารถ (Competency) หมายถึง ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะ ที่จำเป็นในการปฏิบัติงานใดงานหนึ่งให้ประสบความสำเร็จ โดยประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลัก 3 ประการ ดังนี้

  1. ความรู้ (Knowledge) ความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำงาน อาจจะเป็นความรู้เกี่ยวกับเนื้อหาหลักของงาน ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายระเบียบ ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี หรือความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ
  2. ทักษะ (Skill) ทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงาน อาจจะเป็นทักษะทางเทคนิค ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหา หรือทักษะการทำงานเป็นทีม
  3. คุณลักษณะ (Attributes) คุณลักษณะส่วนตัวที่ส่งผลต่อการทำงาน อาจจะเป็นความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ ความอดทน ความคิดริเริ่ม หรือทักษะการทำงาน

ประเภทของสมรรถนะ

สมรรถนะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้

  1. สมรรถนะหลัก (Core Competency): สมรรถนะที่องค์กรคาดหวังว่าบุคลากรทุกคนทุกระดับจำเป็นต้องมี เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความรู้ ทักษะ ทัศนคติ ความเชื่อ และอุปนิสัยของคนในองค์กรโดยรวม พฤติกรรมเหล่านั้นจะมีส่วนที่จะช่วยสนับสนุนให้องค์กรบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้
  2. สมรรถนะเฉพาะงาน (Job-Specific Competency): สมรรถนะอื่นที่ไม่ใช่สมรรถนะหลัก ซึ่งเป็นคุณสมบัติหรือคุณลักษณะที่กำหนดขึ้นสำหรับผู้ปฏิบัติงาน และเป็นคุณสมบัติหรือคุณลักษณะที่องค์การต้องการสำหรับแต่ละตำแหน่งงานที่แตกต่างกันไป เพื่อให้ปฏิบัติงานในตำแหน่งงานนั้นๆ ได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

ความหมายของการสอนงาน

ความหมายของการสอนงาน

ความหมายของการสอนงาน

การสอนงาน หรือ Coaching หมายถึง กระบวนการที่ ผู้สอนงาน (Coach) ช่วยให้ ผู้รับการสอนงาน (Coachee) พัฒนาความรู้ ทักษะ และพฤติกรรม เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุเป้าหมายของงาน และเติบโตในหน้าที่การงาน

ลักษณะสำคัญของการสอนงาน

  • เป็นการช่วยเหลือ ไม่ใช่การสั่งสอน ผู้สอนงานมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้รับการสอนงาน ให้ค้นหาศักยภาพ พัฒนาตนเอง และบรรลุเป้าหมาย ไม่ใช่การสั่งสอนให้ทำตามคำสั่ง
  • เน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ ผู้รับการสอนงานจะได้เรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง ผู้สอนงานคอยให้คำแนะนำ และช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด
  • เป็นการเรียนรู้แบบตัวต่อตัว ผู้สอนงานจะให้ความสนใจกับผู้รับการสอนงานแต่ละคน เข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน และความต้องการของผู้รับการสอนงานแต่ละคน เพื่อออกแบบโปรแกรมการสอนงานที่เหมาะสม

เป้าหมายของการสอนงาน

  • ช่วยให้ผู้รับการสอนงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้รับการสอนงานจะมีความรู้ ทักษะ และพฤติกรรมที่จำเป็นสำหรับการทำงาน สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีคุณภาพ
  • ช่วยให้ผู้รับการสอนงานบรรลุเป้าหมายของงาน ผู้รับการสอนงานจะสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ สร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับองค์กร
  • ช่วยให้ผู้รับการสอนงานเติบโตในหน้าที่การงาน ผู้รับการสอนงานจะมีศักยภาพ สามารถพัฒนาตนเอง และก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

ประโยชน์ของการสอนงาน

  • ช่วยให้องค์กรมีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ องค์กรจะมีพนักงานที่มีความรู้ ทักษะ และพฤติกรรมที่จำเป็นสำหรับการทำงาน สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับองค์กร
  • ช่วยลดต้นทุนการฝึกอบรม การสอนงานเป็นวิธีการฝึกอบรมพนักงานที่มีประสิทธิภาพ องค์กรไม่จำเป็นต้องลงทุนในโปรแกรมการฝึกอบรมราคาแพง
  • ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจของพนักงาน พนักงานที่ได้รับการสอนงานจะรู้สึกได้รับการสนับสนุน รู้สึกมีคุณค่า และมีขวัญกำลังใจในการทำงาน

เทคนิคการสอนงาน

  • การวางแผน ผู้สอนงานควรวางแผนการสอนล่วงหน้า กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ เนื้อหา วิธีการสอน และระยะเวลาที่ใช้ในการฝึกอบรม
  • การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ ผู้สอนงานควรสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนาน ผ่อนคลาย ปลอดภัย และเอื้อต่อการเรียนรู้
  • การให้ Feedback ผู้สอนงานควรให้ Feedback แก่ผู้รับการสอนงานอย่างสม่ำเสมอ เน้นจุดแข็ง เสนอแนะแนวทางการพัฒนา และให้กำลังใจ
  • การติดตามผล ผู้สอนงานควรติดตามผลการเรียนรู้ของผู้รับการสอนงาน เพื่อประเมินผลและปรับการสอนให้เหมาะสม
การสอนงาน เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการพัฒนาบุคลากร องค์กรที่ให้ความสำคัญกับการสอนงาน จะมีพนักงานที่มีความรู้ ทักษะ และพฤติกรรมที่จำเป็นสำหรับการทำงาน สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับองค์กร และเติบโตในหน้าที่การงาน

ทักษะการสอนที่สำคัญและจำเป็น

ทักษะการสอนที่สำคัญและจำเป็น

ทักษะการสอนที่สำคัญและจำเป็น

ทักษะการสอนที่มีประสิทธิภาพ เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผู้สอนสามารถปลดล็อกศักยภาพของผู้เรียน นำไปสู่การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ บรรลุเป้าหมายการศึกษา และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เรียนรักในการเรียนรู้

ทักษะการสอนที่สำคัญและจำเป็น แบ่งออกเป็น 10 ประเภท ดังนี้

1. การบรรยาย (Lectures)

  • เหมาะสำหรับการนำเสนอเนื้อหาหลัก อธิบายแนวคิด ทฤษฎี และหลักการ
  • ผู้สอนควรมีทักษะการสื่อสารที่ดี สามารถอธิบายเนื้อหาได้อย่างชัดเจน กระชับ และน่าสนใจ
  • ควรใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย สอดแทรกตัวอย่าง กิจกรรม และสื่อการสอน เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เรียน

2. การใช้คำถาม (The question)

  • ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ ตั้งคำถาม และหาคำตอบด้วยตนเอง
  • ผู้สอนควรออกแบบคำถามที่หลากหลาย ครอบคลุมเนื้อหา และกระตุ้นให้เกิดการอภิปราย
  • ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้ และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

3. การสาธิต (Demonstration)

  • ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจวิธีการทำงาน ขั้นตอนการปฏิบัติ และเทคนิคต่างๆ
  • ผู้สอนควรสาธิตอย่างชัดเจน ถูกต้อง และเป็นลำดับขั้น
  • ควรอธิบายรายละเอียด ตอบคำถาม และให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติตาม

4. การฝึกปฏิบัติ (Practice)

  • ช่วยให้ผู้เรียนได้ลงมือทำ ฝึกฝนทักษะ และเรียนรู้จากประสบการณ์จริง
  • ผู้สอนควรออกแบบกิจกรรมการฝึกปฏิบัติที่หลากหลาย เหมาะสมกับระดับความสามารถของผู้เรียน
  • ควรให้คำแนะนำ ติดตามผล และประเมินผลการฝึกปฏิบัติ

5. การอภิปรายแบบกลุ่ม (Group Discuss)

  • ช่วยให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรียนรู้จากมุมมองที่หลากหลาย และพัฒนาทักษะการสื่อสาร
  • ผู้สอนควรตั้งประเด็นที่ชัดเจน กระตุ้นให้เกิดการอภิปราย และควบคุมเวลาให้เหมาะสม
  • ควรสรุปประเด็นสำคัญ และให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้เรียน

6. การระดมความคิด (Brainstorming)

  • ช่วยให้ผู้เรียนได้คิดสร้างสรรค์ เสนอแนะแนวคิดใหม่ๆ และแก้ไขปัญหา
  • ผู้สอนควรสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เปิดกว้าง และไม่มีการตัดสิน
  • ควรบันทึกไอเดียต่างๆ จัดหมวดหมู่ และวิเคราะห์ความเป็นไปได้

7. การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)

  • ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะการสื่อสาร การแก้ไขปัญหา และการทำงานเป็นทีม
  • ผู้สอนควรออกแบบสถานการณ์ที่สมจริง กำหนดบทบาท และอธิบายกฎกติกา
  • ควรประเมินผลการแสดง วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และให้ข้อเสนอแนะ

8. การใช้เกม (Game)

  • ช่วยให้การเรียนรู้สนุกสนาน ผ่อนคลาย และดึงดูดความสนใจของผู้เรียน
  • ผู้สอนควรเลือกเกมที่เหมาะสมกับเนื้อหา วัย และจำนวนผู้เรียน
  • ควรออกแบบกติกา อธิบายวิธีการเล่น และควบคุมเวลาให้เหมาะสม

9. กรณีศึกษา (Case Study)

  • ช่วยให้ผู้เรียนได้วิเคราะห์สถานการณ์จริง ตัดสินใจ และแก้ไขปัญหา
  • ผู้สอนควรเลือกกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เกี่ยวข้องกับเนื้อหา และมีข้อมูลครบถ้วน
  • ควรกระตุ้นให้ผู้เรียนวิเคราะห์ อภิปราย และเสนอแนะแนวทางการแก้ไข

10. สถานการณ์จำลอง (Simulation)

  • ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติในสภาพแวดล้อมที่เสมือนจริง เตรียมความพร้อม และรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผู้สอนควรออกแบบสถานการณ์จำลองที่มีความซับซ้อน และท้าทาย
  • ควรให้ข้อมูล อุปกรณ์ และทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติงานได้อย่างสมจริง
  • ควรประเมินผลการปฏิบัติ วิเคราะห์ข้อผิดพลาด และให้ข้อเสนอแนะ เพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้จากประสบการณ์

การเลือกใช้ทักษะการสอนที่เหมาะสม

ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • เนื้อหาการเรียน: เนื้อหาบางอย่างเหมาะกับการบรรยาย เช่น ความรู้พื้นฐาน ในขณะที่เนื้อหาบางอย่างเหมาะกับการฝึกปฏิบัติ เช่น ทักษะการใช้เครื่องมือ
  • ระดับความสามารถของผู้เรียน: ผู้เรียนระดับเบื้องต้นอาจจะเหมาะกับการบรรยายและสาธิต ในขณะที่ผู้เรียนระดับสูงอาจจะเหมาะกับการอภิปรายและกรณีศึกษา
  • เป้าหมายการเรียนรู้: หากต้องการให้ผู้เรียนมีความรู้พื้นฐาน ผู้สอนอาจจะใช้การบรรยาย แต่หากต้องการให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติงานได้ ผู้สอนอาจจะใช้การฝึกปฏิบัติ
การใช้ทักษะการสอนที่หลากหลาย จะช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพ น่าสนใจ และตรงตามเป้าหมาย ผู้เรียนจะไม่รู้สึกเบื่อ เกิดการมีส่วนร่วม และสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว

ขั้นตอนการเตรียมการก่อนมีการสอนงานจริง

ขั้นตอนการเตรียมการก่อนมีการสอนงานจริง

ขั้นตอนการเตรียมการก่อนมีการสอนงานจริง

การสอนงานเป็นกระบวนการที่สำคัญ ช่วยให้พนักงานเรียนรู้ทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำงาน บรรลุเป้าหมายของงาน และเติบโตในหน้าที่การงาน ดังนั้น ผู้สอนงานจึงจำเป็นต้องเตรียมการอย่างรอบคอบ เพื่อให้การสอนงานมีประสิทธิภาพ บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้

ขั้นตอนการเตรียมการก่อนมีการสอนงานจริง

  1. วิเคราะห์ความต้องการ ผู้สอนงานควรวิเคราะห์ความต้องการของผู้รับการสอนงาน ว่ามีความรู้ ทักษะ และพฤติกรรมใดบ้างที่จำเป็นสำหรับการทำงาน วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และความต้องการของผู้รับการสอนงานแต่ละคน เพื่อออกแบบโปรแกรมการสอนงานที่เหมาะสม
  2. กำหนดเป้าหมาย ผู้สอนงานควรตั้งเป้าหมายการสอนงานที่ชัดเจน วัดผลได้ และบรรลุได้ เป้าหมายควรสอดคล้องกับความต้องการขององค์กร ความต้องการของผู้รับการสอนงาน และกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง
  3. ออกแบบเนื้อหา ผู้สอนงานควรออกแบบเนื้อหาการสอนงานให้สอดคล้องกับเป้าหมาย ครอบคลุมหัวข้อที่จำเป็น และเหมาะสมกับระดับความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ของผู้รับการสอนงาน เนื้อหาควรมีทั้งทฤษฎี ตัวอย่าง และกิจกรรมการฝึกปฏิบัติ
  4. เลือกวิธีการสอน ผู้สอนงานควรเลือกวิธีการสอนที่หลากหลาย เหมาะสมกับเนื้อหา และดึงดูดความสนใจของผู้รับการสอนงาน วิธีการสอนอาจจะรวมถึงการบรรยาย การสาธิต การฝึกปฏิบัติ การอภิปราย การระดมความคิด การแสดงบทบาทสมมุติ การใช้เกม กรณีศึกษา และสถานการณ์จำลอง
  5. เตรียมสื่อการสอน ผู้สอนงานควรเตรียมสื่อการสอนที่หลากหลาย ดึงดูดความสนใจ และช่วยให้ผู้รับการสอนงานเข้าใจเนื้อหาได้อย่างง่ายดาย สื่อการสอนอาจจะรวมถึงเอกสาร รูปภาพ วิดีโอ สไลด์ อุปกรณ์การฝึกปฏิบัติ และสถานการณ์จำลอง
  6. เตรียมสถานที่ ผู้สอนงานควรเตรียมสถานที่ให้เหมาะสมกับการสอนงาน ปลอดภัย เงียบสงบ และมีอุปกรณ์ที่จำเป็นครบถ้วน
  7. เตรียมตนเอง ผู้สอนงานควรเตรียมตนเองให้พร้อม มีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับการสอนงาน เตรียมตัวทั้งด้านเนื้อหา วิธีการสอน และสื่อการสอน รวมทั้งเตรียมใจ เตรียมตัว และใจเย็น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

การวิเคราะห์งาน คือ

การวิเคราะห์งานเพื่อสอน

การวิเคราะห์งานเพื่อสอน

การวิเคราะห์งาน (Job Analysis) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการศึกษา รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับงานแต่ละตำแหน่งในองค์กร

วัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์งาน

  • เพื่อระบุหน้าที่ ความรับผิดชอบ และภาระงานของแต่ละตำแหน่ง
  • เพื่อกำหนดคุณสมบัติ ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับแต่ละตำแหน่ง
  • เพื่อออกแบบระบบการสรรหา คัดเลือก ฝึกอบรม พัฒนา และประเมินผลการทำงาน
  • เพื่อกำหนดค่าจ้างและสวัสดิการให้เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่ง
  • เพื่อปรับปรุงระบบงาน กระบวนการทำงาน และสภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
  • เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย สุขภาพ และความพึงพอใจในการทำงาน

แผนการสอน (SESSION PLAN)/ใบเตรียมการสอน

แผนการสอน (SESSION PLAN)/ใบเตรียมการสอน

แผนการสอน (SESSION PLAN)/ใบเตรียมการสอน

หัวข้อ: การสอนงานเกี่ยวกับวิธีการขายสินค้า

ผู้สอน: [ชื่อผู้สอน]

ผู้เรียน: [ชื่อผู้รับการสอนงาน]

วันที่: [วันที่]

เวลา: [เวลา]

สถานที่: [สถานที่]

วัตถุประสงค์

  • ผู้รับการสอนงานสามารถอธิบายคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าเข้าใจ
  • ผู้รับการสอนงานสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง
  • ผู้รับการสอนงานสามารถปิดการขายได้สำเร็จ

เนื้อหา

บทนำ

  • แนะนำตัว อธิบายวัตถุประสงค์ของการสอนงาน
  • อธิบายภาพรวมของหัวข้อการสอน

คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์:

  • อธิบายคุณสมบัติหลักของผลิตภัณฑ์
  • อธิบายคุณสมบัติเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์
  • อธิบายประโยชน์ของผลิตภัณฑ์

การตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

  • เทคนิคการตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
  • ตัวอย่างคำถามที่พบบ่อย
  • แหล่งข้อมูลสำหรับการตอบคำถาม

การปิดการขาย

  • เทคนิคการปิดการขาย
  • ตัวอย่างประโยคปิดการขาย
  • การจัดการกับข้อโต้แย้งของลูกค้า

สรุป

  • สรุปเนื้อหาที่สอน
  • ตอบคำถาม
  • ประเมินผลการเรียนรู้

กิจกรรม

  • กิจกรรม ผู้รับการสอนงานจะแบ่งกลุ่มเป็นคู่ เพื่อฝึกอธิบายคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าเข้าใจ โดยผู้สอนจะทำหน้าที่เป็นลูกค้า
  • กิจกรรม ผู้รับการสอนงานจะฝึกตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โดยผู้สอนจะสุ่มถามคำถาม
  • กิจกรรม ผู้รับการสอนงานจะฝึกปิดการขาย โดยผู้สอนจะทำหน้าที่เป็นลูกค้า

สื่อการสอน

  • เอกสารเกี่ยวกับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
  • ตัวอย่างคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
  • บทบาทสมมุติการปิดการขาย

การประเมินผล

  • ผู้สอนจะประเมินผลการเรียนรู้ของผู้รับการสอนงาน โดยพิจารณาจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรม ความถูกต้องของข้อมูล และทักษะการสื่อสาร

หมายเหตุ

  • แผนการสอนนี้อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
  • ผู้สอนควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการสอนงาน
  • ผู้สอนควรสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนาน ผ่อนคลาย และเอื้อต่อการเรียนรู้

สรุป

การสอนงานแบบ OJT สู่การเป็นผู้สอนงานมืออาชีพไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่าย แต่หากผู้สอนมีความเชี่ยวชาญในงานของตนเองและสามารถสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและกระตือรือร้น ผู้เรียนก็จะสามารถเป็นผู้สอนงานมืออาชีพได้อย่างเป็นทางการและมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน ดังนั้น ความตั้งใจและการพัฒนาตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างผู้สอนงานมืออาชีพที่มีคุณภาพ

Topprofessional And Development

สถาบันฝึกอบรมและที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์และองค์กร บริการให้คำปรึกษาด้านระบบ ISO แบบครบวงจรด้วยหลักสูตรคุณภาพอาจารย์ผู้สอนมากด้วยประสบการณ์

วันทำการ ( จันทร์ - เสาร์ เวลา 8:00 - 17:00 น. )

ติดตามเรา

icon-facebookicon-lineicon-youtubeicon-tiktok
Copyright 2023 © HERMES Digital Marketing . All Rights Reserved