มีคำกล่าวไว้ว่า ผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่แท้จริง คือ ผู้จัดการหรือหัวหน้างานในสายการผลิต (All Managers are HR Managers and Non-HR Manager is HR Manager) เพราะหัวหน้างานคือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับ พนักงานมากที่สุด
องค์กรที่แข็งแกร่งและประสบความสำเร็จในยุคแห่งการแข่งขันและเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันต่างก็มุ่งให้การส่งเสริมและสนับสนุนให้หัวหน้างานทุกหน่วยในองค์กรมีความสามารถในการบริหารจัดการด้านบุคคล และมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตและความก้าวหน้าให้เกิดขึ้นกับพนักงานไปพร้อม ๆ กับฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ ขององค์กร
ทั้งนี้ เพื่อหัวหน้างานจะได้ใช้ศักยภาพ ในการพัฒนางานอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาด้านการสรรหาคนที่ไม่ตรงกับงาน คนที่ได้รับการอบรมเสริมความรู้หรือพัฒนาแล้วแต่ยังทำงานแบบเดิมๆ หรือด้านการรักษาหรือจูงใจคนเนื่องจากผลตอบแทนไม่คุ้มค่ากับผลของงาน เป็นต้น
ผลการทำงานของคนจะดีหรือไม่
ผลการทำงานของคนจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้
1. ความสามารถ
- ทักษะ บุคคลที่่มีทักษะตรงกับงาน ย่อมทำงานได้มีประสิทธิภาพ
- ความรู้ ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับงาน ช่วยให้ทำงานได้ถูกต้อง แม่นยำ
- ประสบการณ์ ประสบการณ์ที่สั่งสม ช่วยให้ทำงานได้คล่องแคล่ว แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
2. ผลการทำงาน
- ประสิทธิภาพ ทำงานได้รวดเร็ว ถูกต้อง ตรงตามเป้าหมาย
- คุณภาพ ผลงานมีมาตรฐาน ดีเยี่ยม ตรงตามความต้องการ
- ผลลัพธ์ ผลงานบรรลุเป้าหมาย เกิดประโยชน์ต่อองค์กร
3. แรงจูงใจ
- แรงจูงใจภายใน เกิดจากความชอบ ท้าทาย รู้สึกภูมิใจ
- แรงจูงใจภายนอก รางวัล สวัสดิการ เงินเดือน
- แรงจูงใจเชิงบวก มุ่งมั่น ตั้งใจ พยายาม
- แรงจูงใจเชิงลบ กลัว ถูกบังคับ กดดัน
4. โอกาส
- โอกาสในการเรียนรู้ พัฒนาทักษะ ความรู้
- โอกาสในการเติบโต ก้าวหน้าในตำแหน่ง
- โอกาสในการแสดงผลงาน นำเสนอไอเดีย ความสามารถ
- โอกาสในการรับผิดชอบ ทำงานสำคัญ ท้าทาย
ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนส่งผลต่อผลการทำงานของบุคคล
บุคคลที่มีความสามารถ ผลการทำงานดี แรงจูงใจสูง และมีโอกาส ย่อมมีผลการทำงานที่ยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนสัมพันธ์กัน
- ความสามารถ พัฒนาได้จาก การเรียนรู้
- ผลการทำงาน ดีขึ้นจาก แรงจูงใจ
- แรงจูงใจ เกิดขึ้นจาก โอกาส
- โอกาส เกิดขึ้นจาก ความสามารถ
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อผลการทำงาน เช่น สภาพแวดล้อมการทำงาน สัมพันธ์กับหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน สภาพร่างกาย จิตใจ
การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HRM) / การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRD) : ความแตกต่างและความสัมพันธ์
การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HRM) และ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRD) มักถูกใช้สับสนว่ามีความหมายเหมือนกัน แต่แท้จริงแล้วทั้งสองคำมีความหมายและขอบเขตที่แตกต่างกัน
การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HRM)
หมายถึง กระบวนการที่จัดการนำเป้าหมายของบุคลากรและเป้าหมายขององค์กรให้มาบรรจบกัน เพื่อผลสำเร็จร่วมกันของทั้งองค์กรและบุคคล
กิจกรรมหลักของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ แบ่งออกได้เป็น 4 ด้าน ดังนี้
- ด้านการสรรหาพนักงาน ครอบคลุมถึงกระบวนการสรรหา คัดเลือก ว่าจ้าง บรรจุ และพัฒนาพนักงานใหม่
- ด้านการพัฒนา มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะ ความรู้ และศักยภาพของพนักงานให้สอดคล้องกับงานและบรรลุเป้าหมายขององค์กร
- ด้านการรักษาพนักงาน เกี่ยวข้องกับการบริหารค่าตอบแทน สวัสดิการ สื่อสาร สัมพันธ์แรงงาน และสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี
- ด้านการใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า มุ่งเน้นไปที่การวางแผนกำลังคน การออกแบบงาน การกำหนดตำแหน่ง และการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRD)
มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะ ความรู้ และศักยภาพที่ตรงกับความต้องการขององค์กร
กิจกรรมหลักของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ประกอบด้วย
- การฝึกอบรม: พัฒนาทักษะ ความรู้ และความสามารถของพนักงานผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมต่างๆ
- การพัฒนาศักยภาพ: ส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาศักยภาพและทักษะความเป็นผู้นำ
- การพัฒนาองค์กร: พัฒนาระบบ โครงสร้าง และวัฒนธรรมองค์กรให้เอื้อต่อการพัฒนาและบรรลุเป้าหมาย
- การพัฒนาอาชีพ: ส่งเสริมให้พนักงานวางแผนและพัฒนาอาชีพภายในองค์กร
ความสัมพันธ์ระหว่าง HRM และ HRD
- HRM เป็นเหมือนฐานรากที่รองรับ HRD
- HRM ทำหน้าที่จัดการทรัพยากรมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพ
- HRD พัฒนาทักษะ ความรู้ และศักยภาพของพนักงานเพื่อบรรลุเป้าหมายขององค์กร
เปรียบเสมือน ขาสองข้างที่ช่วยให้ร่างกายเดินไปได้
องค์กรที่มีประสิทธิภาพ จะให้ความสำคัญกับทั้ง HRM และ HRD หัวหน้างานด้านทรัพยากรมนุษย์ ควรมีความรู้และทักษะทั้งสองด้าน เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายขององค์กร
ตัวอย่าง
- ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ จัดโปรแกรมฝึกอบรมทักษะการบริการลูกค้าให้กับพนักงานขาย (HRM)
- ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ออกแบบหลักสูตรพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำ (HRD)
การบริหารทรัพยากรบุคคล
การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Management: HRM) มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร โดยมุ่งเน้นไปที่การบริหารจัดการบุคลากรให้มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายขององค์กร
กิจกรรมหลักของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ แบ่งออกได้เป็น 4 ด้าน ดังนี้
1. ด้านการสรรหาพนักงาน
- การรับสมัคร กำหนดวิธีการรับสมัครพนักงานที่เหมาะสมกับองค์กร เช่น การประกาศรับสมัครทางออนไลน์ รับสมัครผ่านตัวแทนรับสมัครงาน หรือรับสมัครโดยตรง
- การทดสอบ ออกแบบข้อสอบหรือวิธีการทดสอบเพื่อวัดความรู้ ความสามารถ และทักษะของผู้สมัคร
- การสัมภาษณ์ ประเมินผู้สมัครโดยตรงเพื่อดูความเหมาะสมกับตำแหน่งงาน วัฒนธรรมองค์กร และศักยภาพในการพัฒนา
- การว่าจ้างและบรรจุ เสนอสัญญาจ้างงาน ตรวจสอบประวัติ และจัดเตรียมเอกสารการบรรจุ
- การทดลองปฏิบัติงาน ให้ผู้สมัครทดลองทำงานจริงเพื่อประเมินความสามารถและความเหมาะสมกับองค์กร
2. ด้านการพัฒนา
- การพัฒนาพนักงาน ฝึกอบรมพนักงานเพื่อพัฒนาทักษะ ความรู้ และความสามารถให้สอดคล้องกับงาน
- การพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมให้พนักงานวางแผนและพัฒนาอาชีพภายในองค์กร
- การพัฒนาองค์กร พัฒนาระบบและโครงสร้างองค์กรให้เอื้อต่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
3. ด้านการรักษาพนักงาน
- ค่าตอบแทน กำหนดระบบเงินเดือนและสวัสดิการที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานและผลงาน
- ความก้าวหน้าในตำแหน่ง กำหนดแนวทางการเลื่อนตำแหน่งและโอกาสในการเติบโตในองค์กร
- การประเมินผลการปฏิบัติงาน ประเมินผลงานพนักงานเป็นประจำและให้คำติชมเพื่อพัฒนา
- สวัสดิการและผลประโยชน์เกื้อกูล มอบสวัสดิการและผลประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ประกันสุขภาพ เบี้ยเลี้ยงอาหาร ที่พัก ฯลฯ
- สื่อสัมพันธ์ ส่งเสริมการสื่อสารที่ดีระหว่างหัวหน้างานและลูกน้อง สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี
- สุขอนามัย ความปลอดภัย ดูแลให้พนักงานมีสุขภาพและความปลอดภัยที่ดีในสถานที่ทำงาน
- แรงงานสัมพันธ์ ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับพนักงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
4. ด้านการใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า
- การวางแผนกำลังคน วิเคราะห์ความต้องการกำลังคนในอนาคต วางแผนการสรรหาและพัฒนาพนักงาน
- การออกแบบงาน ออกแบบงานให้เหมาะสมกับทักษะ ความสามารถ และศักยภาพของพนักงาน
- การกำหนดตำแหน่ง กำหนดรายละเอียดงาน คุณสมบัติ และหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละตำแหน่ง
- การวิจัยและการตรวจสอบ วิจัยและตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์อีกมากมาย เช่น การบริหารแรงจูงใจ การบริหารความขัดแย้ง การบริหารวัฒนธรรมองค์กร ฯลฯ
การบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้องค์กรมีบุคลากรที่มีคุณภาพ ทำงานอย่างมีประสิทธิผล บรรลุเป้าหมาย และขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ
3 ประสานเพื่อการบริหารและพัฒนา HR
3 ประสานเพื่อการบริหารและพัฒนา HR พนักงาน ผู้บริหาร และฝ่ายทรัพยากรมนุษย์
การบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HR) ให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจาก 3 ฝ่ายหลัก ดังนี้
1. พนักงาน
- มีส่วนร่วม: เสนอแนะความคิดเห็น ปัญหา และความต้องการ
- พัฒนาตนเอง: เรียนรู้ ทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ใหม่ๆ
- รับผิดชอบ: ทำงานอย่างเต็มที่ มีประสิทธิภาพ ตรงต่อเวลา
- สื่อสาร: สื่อสารกับหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน และฝ่ายทรัพยากรมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ผู้บริหาร
- กำหนดนโยบายและกลยุทธ์: กำหนดทิศทางการบริหารทรัพยากรมนุษย์ สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร
- สนับสนุน: สนับสนุนให้พนักงานพัฒนาตนเอง มีโอกาสเติบโตในองค์กร
- ให้รางวัล: ให้รางวัลแก่พนักงานที่มีผลงานดี มีส่วนร่วม พัฒนาองค์กร
- สื่อสาร: สื่อสารนโยบาย แผนงาน เป้าหมาย และความคาดหวังให้พนักงานทราบ
3. ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์
- ออกแบบระบบ: ออกแบบระบบการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่ครอบคลุม เช่น การสรรหา การพัฒนา การรักษาพนักงาน
- บริหารระบบ: บริหารระบบการบริหารทรัพยากรมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส
- ให้คำปรึกษา: ให้คำปรึกษาแก่พนักงานและผู้บริหาร เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เช่น การพัฒนาอาชีพ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
- สื่อสาร: สื่อสารข้อมูลข่าวสาร นโยบาย แผนงาน เป้าหมาย และความคาดหวังขององค์กร
ความร่วมมือ ของ 3 ฝ่ายหลัก นี้
- ช่วยให้เกิด การบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพ
- พนักงานมี แรงจูงใจ พัฒนาตนเอง ทำงานอย่างเต็มที่
- องค์กรบรรลุ เป้าหมาย ประสบความสำเร็จ
ตัวอย่าง
- ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ จัดโปรแกรมฝึกอบรมทักษะการบริการลูกค้าให้กับพนักงานขาย (ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์)
- ผู้บริหาร สนับสนุนให้พนักงานเข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรม (ผู้บริหาร)
- พนักงาน เข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรมอย่างตั้งใจ พัฒนาตนเอง (พนักงาน)
หน้าที่ของหน่วยงานทรัพยากรมนุษย์
หน้าที่หลักของหน่วยงานทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources - HR) หน่วยงานทรัพยากรมนุษย์มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการบุคลากรภายในองค์กร โดยมีหน้าที่หลักดังนี้
1. กำหนดนโยบาย
- กำหนดนโยบายและกลยุทธ์ด้านทรัพยากรมนุษย์ สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร
- กำหนดมาตรฐานการสรรหา คัดเลือก พัฒนา และรักษาพนักงาน
- กำหนดนโยบายด้านค่าตอบแทน สวัสดิการ และผลประโยชน์
- กำหนดนโยบายด้านความปลอดภัย สุขอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน
- กำหนดนโยบายด้านแรงงานสัมพันธ์
2. ให้บริการ
- จัดหาและสรรหาพนักงานที่มีคุณภาพ
- พัฒนาบุคลากรผ่านการฝึกอบรม อบรมพัฒนา
- บริหารจัดการระบบค่าตอบแทน สวัสดิการ และผลประโยชน์
- ดูแลสภาพความปลอดภัย สุขอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน
- บริหารจัดการแรงงานสัมพันธ์
- ให้คำปรึกษาแนะนำพนักงานเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ
- จัดการงานด้านเอกสารบุคคล
3. ให้คำแนะนำ
- ให้คำปรึกษาแนะนำผู้บริหารเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรมนุษย์
- วิเคราะห์ข้อมูลด้านทรัพยากรมนุษย์ และเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหา
- ศึกษาข้อมูลตลาดแรงงาน และเสนอแนะแนวทางการสรรหาพนักงาน
- ศึกษาข้อมูลเทรนด์ด้านทรัพยากรมนุษย์ และเสนอแนะแนวทางการพัฒนาบุคลากร
4. ควบคุม
- ติดตามประเมินผลการดำเนินงานด้านทรัพยากรมนุษย์
- ตรวจสอบและควบคุมระบบงานด้านทรัพยากรมนุษย์
- บริหารจัดการข้อมูลข่าวสารด้านทรัพยากรมนุษย์
- จัดทำรายงานสรุปข้อมูลด้านทรัพยากรมนุษย์
หน้าที่ของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) เกี่ยวกับสมาชิกขององค์กร
ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการบุคลากรภายในองค์กร โดยมีหน้าที่หลักที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกขององค์กรดังนี้
1. แรงงานสัมพันธ์
- ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับพนักงาน
- จัดการข้อพิพาทความขัดแย้งระหว่างพนักงาน
- ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี
- ดูแลเรื่องสวัสดิการและผลประโยชน์ของพนักงาน
- ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน
2. การวางแผนทรัพยากรมนุษย์
- วิเคราะห์ความต้องการด้านทรัพยากรมนุษย์ขององค์กร
- จัดทำแผนงานด้านทรัพยากรมนุษย์
- กำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์ด้านทรัพยากรมนุษย์
- จัดสรรทรัพยากรและงบประมาณด้านทรัพยากรมนุษย์
3. การรักษาระเบียบวินัย
- กำหนดกฎระเบียบและข้อบังคับขององค์กร
- ดูแลเรื่องวินัยของพนักงาน
- ดำเนินการสอบสวนพนักงาน
- ให้คำปรึกษาแนะนำพนักงานเกี่ยวกับกฎระเบียบและข้อบังคับ
4. การจ้างงาน
- สรรหาและคัดเลือกพนักงาน
- ตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของผู้สมัคร
- สัมภาษณ์ผู้สมัคร
- เสนอรายชื่อผู้สมัครที่เหมาะสม
- จัดทำสัญญาจ้าง
5. การธำรงรักษาพนักงาน
- พัฒนาระบบการบริหารผลงาน
- พัฒนาศักยภาพของพนักงาน
- ให้รางวัลแก่พนักงานที่มีผลงานดี
- จัดกิจกรรมส่งเสริมขวัญกำลังใจ
- ดูแลเรื่องสวัสดิการและผลประโยชน์ของพนักงาน
6. การจัดการทรัพยากรมนุษย์
- บริหารจัดการระบบข้อมูลบุคคล
- จัดทำรายงานสรุปข้อมูลด้านทรัพยากรมนุษย์
- วิเคราะห์ข้อมูลด้านทรัพยากรมนุษย์
- เสนอแนะแนวทางการพัฒนาองค์กร
7. การบริหารค่าตอบแทน
- กำหนดโครงสร้างเงินเดือน
- กำหนดระบบสวัสดิการและผลประโยชน์
- ประเมินผลงานและกำหนดเงินเดือน
- จ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการให้แก่พนักงาน
นอกจากนี้ ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ยังมีหน้าที่อื่นๆ
- การสื่อสาร: สื่อสารข้อมูลข่าวสาร นโยบาย แผนงาน เป้าหมาย และความคาดหวังขององค์กร
- การจัดการการเปลี่ยนแปลง: สนับสนุนและช่วยเหลือพนักงานในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง
- การบริหารความเสี่ยง: ประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยงด้านทรัพยากรมนุษย์
- การวิจัย: วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านทรัพยากรมนุษย์
ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพ
- ช่วยให้องค์กรมีบุคลากรที่มีคุณภาพ
- ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- บรรลุเป้าหมาย
- ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ
ระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรมนุษย์ (HRIS)
ระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรมนุษย์ (HRIS) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรบริหารจัดการข้อมูลและกระบวนการด้านทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
HRIS ประกอบด้วยระบบย่อยต่างๆ ดังนี้
1. ระบบสรรหาบุคลากร e-Recruitment
- ช่วยให้องค์กรจัดการกระบวนการสรรหาบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รองรับการรับสมัครงานออนไลน์
- คัดกรองผู้สมัครงาน
- จัดการนัดสัมภาษณ์
- ติดตามผลการสรรหา
2. ระบบจัดการเวลาทำงานคำล่วงเวลา e-Time
- บันทึกเวลาเข้า-ออกงาน
- คำนวณเวลาทำงานล่วงเวลา
- ขออนุมัติการลา
- ตรวจสอบยอดคงเหลือลา
3. ระบบการจัดการการลาออนไลน์ e-Leave
- ขออนุมัติการลาออนไลน์
- ตรวจสอบยอดคงเหลือลา
- ติดตามสถานะการลา
- จัดทำรายงานการลา
4. ระบบจัดการการฝึกอบรม e-Training
- จัดการหลักสูตรการฝึกอบรม
- สมัครหลักสูตรการฝึกอบรม
- บันทึกผลการฝึกอบรม
- ประเมินผลการฝึกอบรม
5. ระบบประเมินผลงาน e-Performance
- กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดผลงาน
- ประเมินผลงานพนักงาน
- วิเคราะห์ผลการประเมิน
- จัดทำรายงานผลการประเมิน
6. ระบบการจัดการเบิกคำาทดแทนและค่าใช้จ่าย e-Claim
- เบิกค่าเดินทาง
- เบิกค่าเบี้ยเลี้ยง
- เบิกค่ารักษาพยาบาล
- ตรวจสอบสถานะการเบิก
สรุป
งานบริหารทรัพยากรมนุษย์แบบมือใหม่ (HR FOR NON HR) งานบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HR) มีบทบาทสำคัญต่อองค์กร เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ เพราะ ผู้จัดการหรือหัวหน้างานในสายการผลิต (All Managers are HR Managers and Non-HR Manager is HR Manager) คือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับ พนักงานมากที่สุด