บทความ

คำชี้แจงกระทรวงแรงงาน เรื่อง พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2568 เรื่องที่ 2 สิทธิลาเพื่อคลอดบุตร และสิทธิได้รับค่าจ้างในวันลาเพื่อคลอดบุตร

เรื่องที่ 2 สิทธิลาเพื่อคลอดบุตร และสิทธิได้รับค่าจ้าง

เรื่องที่ 2 สิทธิลาเพื่อคลอดบุตร และสิทธิได้รับค่าจ้าง

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

"มาตรา ๔๑ วรรคหนึ่ง ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์มีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรครรภ์หนึ่งไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบวัน หรือตามจำนวนวันที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา"

"มาตรา ๕๙ ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ในวันลาเพื่อคลอดบุตรตามมาตรา ๔๑ วรรคหนึ่ง เท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกินหกสิบวัน หรือตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา"

เจตนารมณ์

เพื่อยกระดับการคุ้มครองมารดาและบุตรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยเพิ่มจำนวนวันลาเพื่อคลอดบุตรแก่ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ให้มีวันลาเพิ่มขึ้นจาก ๙๘ วัน เป็นจำนวน ๑๒๐ วันต่อครรภ์ อันจะทำให้ลูกจ้างมีระยะเวลาทั้งในช่วงก่อนและหลังคลอดบุตรมากยิ่งขึ้นสอดคล้องกับมาตรา ๔๘ วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่กำหนดสิทธิของมารดาว่าในช่วงระหว่างก่อนและหลังการคลอดบุตรย่อมได้รับการคุ้มครองและช่วยเหลือตามที่กฎหมายบัญญัติ อนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ ๑๘๓ ว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นมารดา ค.ศ. ๒๐๐๐ ( C, ๑๘๓ - Maternity Protection Convention, ๒๐๐๐) ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization : ILO) และข้อแนะ ฉบับที่ ๑๙๑ ว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นมารดา ค.ศ. ๒๐๐๐ ( R ๑๙๑ - Maternity Protection Recommendation, ๒๐๐๐ )

คำชี้แจง

มาตรา ๔๑ วรรคหนึ่ง เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนวันลาเพื่อคลอดบุตรจากไม่เกิน ๙๘ วัน เป็นมีสิทธิลาได้ไม่เกิน ๑๒๐ โดยวันลาดังกล่าวรวมวันลาเพื่อไปตรวจครรภ์ด้วย และลูกจ้างหญิงที่จะใช้สิทธิลาจะเป็นลูกจ้างที่มีสัญชาติไทยหรือไม่ก็ได้ และจะเป็นลูกจ้างรายวัน รายเดือน หรือตามผลงาน ลูกจ้างที่มีกำหนดเวลาจ้างหรือลูกจ้างตามสัญญาจ้างทดลองงานก็มีสิทธิลาตามมาตรานี้ได้ การศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรา ๔๑ วรรคสองและวรรคสาม ควรศึกษาเพิ่มเติมได้จากคำชี้แจงกระทรวงแรงงาน เรื่อง พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒

https://legal.labour.go.th/images/law/Protection๒๕๔๑/๗/๑๐๐๔๒๕๖๒๑.pdf

สำหรับสิทธิการได้รับค่าจ้างในวันลาเพื่อคลอดบุตรตามมาตรา ๔๑ วรรคหนึ่ง ลูกจ้างหญิงมีสิทธิได้รับค่าจ้างจากนายจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลาแต่ไม่เกิน ๖๐ วัน ตามมาตรา ๕๙ หากนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างในวันลาดังกล่าว อาจถูกมาตรการบังคับใช้กฎหมายต่อไป (เรื่องที่ ๖ การบังคับใช้กฎหมาย) กรณีลูกจ้างหญิงซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่ใช้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรตามมาตรา ๕๙ แล้ว ยังมีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรเหมาจ่ายในอัตราร้อยละ ๕๐ ของค่าจ้าง ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ มาตรา ๖๗

ตัวอย่างการใช้สิทธิลาและสิทธิได้รับค่าจ้างตามกฎหมาย

๑. กรณีลูกจ้างหญิงได้ใช้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรตามกฎหมายเดิม (จำนวน ๙๘ วัน) ต่อเนื่องกันมา จนถึงวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๖๘ มีผลใช้บังคับ คือ วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๘

แต่สิทธิการลายังไม่สิ้นสุดลง ลูกจ้างหญิงย่อมมีสิทธิลาเพิ่มเติมอีก ๒๒ วัน แต่ไม่เกิน ๑๒๐ วัน และมีสิทธิได้รับค่าจ้างตลอดระยะเวลาที่ลาแต่ไม่เกิน ๖๐ วัน เช่น

สิทธิลาเพื่อคลอดบุตร

- นางสาว ก ใช้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรในวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๘ จำนวน ๙๘ วันต่อมาวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๘ กฎหมายมีผลใช้บังคับ นางสาว ก ย่อมมีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรเพิ่มเติมได้อีก ๒๒ วันหรือยื่นใบลาต่อนายจ้างโดยขอใช้สิทธิไปจนถึงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๘ แต่ถ้าหากสิทธิลาตามกฎหมายเดิมสิ้นสุดลงในวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๘ ลูกจ้างสามารถใช้สิทธิลาตามกฎหมายใหม่ได้เช่นเดียวกัน โดยต้องแจ้งการใช้สิทธิลาให้นายจ้างทราบด้วย (เทียบเคียงบันทึกข้อหารือกฤษฎีกาเรื่องเสร็จที่ ๒๕๕/๒๕๓๖)

๗ ธันวาคม ๒๕๖๘ กฎหมายมีผลใช้บังคับ นางสาว ก ย่อมมีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรเพิ่มเติมได้อีก ๒๒ วัน

๗ ธันวาคม ๒๕๖๘ กฎหมายมีผลใช้บังคับ นางสาว ก ย่อมมีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรเพิ่มเติมได้อีก ๒๒ วัน

สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรเพิ่มเติม

- นางสาว ข ใช้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๘ จำนวน ๙๑ วัน และจะกลับมาทำงานวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๘ หากนายจ้างได้จ่ายค่าจ้างในวันลาคลอดจำนวน ๔๕ วันแล้ว (วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๘ ถึง ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๘) ต่อมาวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๘ กฎหมายมีผลใช้บังคับ

นางสาว ข ย่อมมีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันลาคลอดเพิ่มอีกเท่ากับค่าจ้างตั้งแต่วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๘ ถึง ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๘ หรือจำนวน ๘ วัน แต่หากลูกจ้างใช้สิทธิลาคลอดเพิ่มเติมตามกฎหมายใหม่ ถึงวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๘ หรือใช้สิทธิครบ ๑๒๐ วัน กรณีเช่นนี้ นางสาว ข จะได้รับค่าจ้างสำหรับลาคลอดอีกไม่เกิน ๑๕ วัน และหากนางสาว ข มีคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย คู่สมรสอาจใช้สิทธิลาเพื่อช่วยเหลือคู่สมรสได้อีกไม่เกิน ๑๕ วัน

นับตั้งแต่วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๘ แม้คู่สมรสของนางสาว ข จะไม่ใช่ลูกจ้างที่มีนายจ้างคนเดียวกันกับนางสาว ข ทั้งนี้ ตามมาตรา ๔๑/๑

นางสาว ข ใช้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๘ จำนวน ๙๑ วัน

นางสาว ข ใช้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๘ จำนวน ๙๑ วัน

กรณีลูกจ้างหญิงใช้สิทธิลาตามกฎหมายฉบับเดิมสิ้นสุดลงก่อนวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๘

๒. กรณีลูกจ้างหญิงใช้สิทธิลาตามกฎหมายฉบับเดิมสิ้นสุดลงก่อนวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๘ ลูกจ้างหญิงย่อมไม่อาจใช้สิทธิลาเพิ่มเติมตามกฎหมายใหม่ได้อีก เนื่องจากกฎหมายยังไม่มีผลใช้บังคับ เช่น นางสาว ค ใช้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๘ จำนวน ๙๘ วัน ต่อมาวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๘ กฎหมายมีผลใช้บังคับ นาง ค ย่อมไม่มีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรได้อีก เนื่องจากกฎหมายยังไม่มีผลใช้บังคับ

กรณีลูกจ้างหญิงใช้สิทธิลาตามกฎหมายฉบับเดิมสิ้นสุดลงก่อนวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๘ ลูกจ้างหญิงย่อมไม่อาจใช้สิทธิลาเพิ่มเติมตามกฎหมายใหม่ได้อีก

กรณีลูกจ้างหญิงใช้สิทธิลาตามกฎหมายฉบับเดิมสิ้นสุดลงก่อนวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๘ ลูกจ้างหญิงย่อมไม่อาจใช้สิทธิลาเพิ่มเติมตามกฎหมายใหม่ได้อีก

สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรของลูกจ้างหญิงตามมาตรา ๔๑ วรรคหนึ่ง ไม่รวมถึงการแท้งบุตรหรือการแท้งลูก (Miscarriage)

๓. สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรของลูกจ้างหญิงตามมาตรา ๔๑ วรรคหนึ่ง ไม่รวมถึงการแท้งบุตรหรือการแท้งลูก (Miscarriage) อันหมายถึงการสิ้นสุดการตั้งครรภ์โดยทารกในครรภ์ถูกขับออกก่อนตั้งครรภ์ได้ ๒๘ สัปดาห์หรือคลอดออกมาแล้วไม่มีชีวิตอันเป็นภาวะผิดปกติอย่างหนึ่งของการตั้งครรภ์ กรณีเช่นนี้ลูกจ้างไม่อาจใช้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรได้ หากลูกจ้างหญิงป่วยเจ็บหรือไม่สบายจนไม่อาจมาทำงานให้นายจ้างได้เนื่องจากการคลอดก็อาจใช้สิทธิลาป่วยตามมาตรา ๓๒ โดยแจ้งขอลาต่อนายจ้างได้

สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรของลูกจ้างหญิงตามมาตรา ๔๑ วรรคหนึ่ง ไม่รวมถึงการแท้งบุตร

สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรของลูกจ้างหญิงตามมาตรา ๔๑ วรรคหนึ่ง ไม่รวมถึงการแท้งบุตร

กรณีใช้สิทธิลาคลอด 120 วัน แล้วบุตรเสียชีวิต สิทธิลาจะสิ้นสุดลงหรือไม่

๔. กรณีลูกจ้างหญิงใช้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตร ๑๒๐ วัน ปรากฏว่าภายหลังจากคลอด บุตรได้เสียชีวิตลง กรณีเช่นนี้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรรวมทั้งค่าจ้างในวันลาดังกล่าวย่อมไม่สิ้นสุดลงในวันที่บุตรเสียชีวิต เช่น ใช้สิทธิลาคลอดในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๙ (๑๒๐ วัน) ต่อมาลูกจ้างหญิงคลอดบุตรวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๘ และ ๓ วันต่อมาบุตรเสียชีวิตลง กรณีเช่นนี้เห็นได้ว่า เมื่อลูกจ้างหญิงได้ใช้สิทธิลา ๑๒๐ วันไปแล้วแม้ภายหลังบุตรจะเสียชีวิตลง แต่สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรไม่สิ้นสุดลง เนื่องจากเจตนารมณ์ของกฎหมายเพื่อให้มารดาได้พักฟื้นร่างกายภายหลังคลอดบุตรด้วย อย่างไรก็ตาม หากลูกจ้างหญิงพร้อมที่จะกลับเข้ามาทำงานก็อาจแจ้งความประสงค์ต่อนายจ้างเพื่อกลับเข้าทำงานตามปกติได้

กรณีลูกจ้างหญิงใช้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตร ๑๒๐ วัน ปรากฏว่าภายหลังจากคลอด บุตรได้เสียชีวิตลง

กรณีลูกจ้างหญิงใช้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตร ๑๒๐ วัน ปรากฏว่าภายหลังจากคลอด บุตรได้เสียชีวิตลง

สิทธิลาคลอด ถ้าไม่ใช้ แลกเงินคืนไม่ได้ / โอนสิทธิ์ให้สามีไม่ได้

๕. อนึ่ง สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรเป็นสิทธิที่จะลาหยุดงานเพื่อให้ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ไปคลอดและเลี้ยงดูบุตรจัดอยู่ในประเภทวันลา มิใช่วันหยุดตามกฎหมาย เช่น วันหยุดพักผ่อนประจำปี เป็นต้น ดังนั้น หากลูกจ้างหญิงไม่ได้ใช้สิทธิลาหรือลาน้อยกว่าที่กฎหมายให้สิทธิ ก็ไม่อาจขอให้นายจ้างจ่ายเป็นเงินค่าจ้างแทน และไม่อาจโอนหรือมอบสิทธิการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรให้บุคคลอื่น เช่น คู่สมรส บิดา หรือผู้ปกครอง ไปใช้สิทธิลาแทนลูกจ้างหญิงได้

สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรเป็นสิทธิที่จะลาหยุดงานเพื่อให้ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ไปคลอดและเลี้ยงดูบุตรจัดอยู่ในประเภทวันลา

สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรเป็นสิทธิที่จะลาหยุดงานเพื่อให้ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ไปคลอดและเลี้ยงดูบุตรจัดอยู่ในประเภทวันลา

สรุป

หากลูกจ้างหญิงได้ใช้สิทธิลาคลอดตามกฎหมายฉบับเดิมและสิทธิได้สิ้นสุดลงก่อนวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ซึ่งเป็นวันที่กฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้ จะถือว่าสิทธิการลาครั้งนั้นได้ถูกใช้ไปครบถ้วนแล้ว จึงไม่สามารถขอใช้สิทธิลาเพิ่มเติมตามกฎหมายฉบับใหม่ในเหตุการณ์เดียวกันได้

กล่าวคือ การลาคลอดจะนับสิทธิตามช่วงเวลาที่เริ่มใช้สิทธิ หากเริ่มและสิ้นสุดภายใต้กฎหมายเดิม ก็จะต้องยึดตามกฎหมายเดิมทั้งหมด โดยไม่สามารถปรับเพิ่มจำนวนวันลาตามกฎหมายใหม่ย้อนหลังได้นะคะ

Topprofessional And Development

สถาบันฝึกอบรมและที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์และองค์กร บริการให้คำปรึกษาด้านระบบ ISO แบบครบวงจรด้วยหลักสูตรคุณภาพอาจารย์ผู้สอนมากด้วยประสบการณ์

วันทำการ ( จันทร์ - เสาร์ เวลา 8:00 - 17:00 น. )

ติดตามเรา

icon-facebookicon-lineicon-youtubeicon-tiktok
Copyright 2023 © HERMES Digital Marketing . All Rights Reserved