การตั้งเป้าหมายด้วย GROW Model

การตั้งเป้าหมาย ด้วย GROW MODEL

GROW Model เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการโค้ชและพัฒนาตนเองที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ถึงแม้ว่าจะไม่มีการระบุผู้คิดค้นขึ้นมาคนเดียวอย่างชัดเจน แต่ก็มีการยอมรับกันโดยทั่วไปว่า Sir John Whitmore ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกงานด้าน business coaching มีส่วนสำคัญในการพัฒนามาตรฐานและเผยแพร่ GROW Model ให้เป็นที่รู้จัก

Sir John Whitmore ได้เขียนหนังสือชื่อ Coaching for Performance ซึ่งถือเป็นหนังสือคลาสสิกในวงการโค้ช และได้กล่าวถึง GROW Model ไว้อย่างละเอียด ทำให้โมเดลนี้ได้รับความนิยมและถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายตั้งแต่ช่วงปี 1980-1990

GROW Model เป็นเครื่องมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการโค้ชและพัฒนาตนเอง เพื่อช่วยให้บุคคลสามารถตั้งเป้าหมายและบรรลุผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย GROW ย่อมาจาก 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

GROW Model

GROW ย่อมาจาก 4 ขั้นตอนหลัก

Goal (เป้าหมาย): กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้
Reality (ความเป็นจริง): วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น
Option (ทางเลือก): ค้นหาทางเลือกและแนวทางในการบรรลุเป้าหมาย
Will (สิ่งที่จะเกิดขึ้น): กำหนดแผนปฏิบัติการและสร้างแรงจูงใจ

ขั้นตอนการใช้ GROW Model

G: Goal (เป้าหมาย)

ถามคำถาม: เป้าหมายที่คุณต้องการคืออะไร? เป้าหมายนั้นสำคัญกับคุณอย่างไร? คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณบรรลุเป้าหมายแล้ว?
ตัวอย่าง: "ฉันต้องการลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมภายใน 3 เดือน"

R: Reality (ความเป็นจริง)

ถามคำถาม: สถานการณ์ปัจจุบันของคุณเป็นอย่างไร? อะไรคืออุปสรรคที่อาจขัดขวางเป้าหมายของคุณ? คุณมีทรัพยากรอะไรบ้างที่สามารถนำมาใช้ได้?
ตัวอย่าง: "ปัจจุบันฉันทานอาหารไม่เป็นเวลาและออกกำลังกายน้อย ฉันไม่มีเวลาไปยิม"

O: Option (ทางเลือก)

ถามคำถาม: มีทางเลือกอะไรบ้างที่คุณสามารถทำได้เพื่อบรรลุเป้าหมาย? ทางเลือกใดที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด?
ตัวอย่าง: "ฉันสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ลดอาหารแปรรูป ออกกำลังกายที่บ้าน หรือสมัครคลาสออกกำลังกาย"

W: Will (สิ่งที่จะเกิดขึ้น)

ถามคำถาม: คุณจะทำอะไรบ้างเพื่อเริ่มต้น? คุณจะติดตามความคืบหน้าอย่างไร? คุณจะรับมือกับอุปสรรคอย่างไร?
ตัวอย่าง: "ฉันจะเริ่มต้นด้วยการทำอาหารเองทุกมื้อ ออกกำลังกาย 30 นาทีทุกวัน และบันทึกอาหารและการออกกำลังกายในแอปพลิเคชัน"

ตัวอย่างการใช้ GROW Model ในชีวิตประจำวัน

ประโยชน์ของ GROW Model

ช่วยให้คุณมีความชัดเจนในเป้าหมาย
ช่วยให้คุณวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างละเอียด
ช่วยให้คุณค้นหาทางเลือกที่หลากหลาย
ช่วยให้คุณสร้างแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม
ช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการบรรลุเป้าหมาย

GROW Model เป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและสามารถปรับใช้ได้กับทุกเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายส่วนตัวหรือเป้าหมายในการทำงาน ลองนำไปปรับใช้กับชีวิตของคุณดูนะคะ หากคุณสนใจศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายด้วย GROW Model นี่เป็นเนื้อหาบางส่วนของหลักสูตร Coaching at Work for HR สนใจจองอบรม คลิกที่นี่

การโค้ชชิ่งด้วย GROW Model สู่เป้าหมายที่ชัดเจนและสำเร็จ

GROW Model เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการช่วยให้บุคคลหนึ่งเข้าใจและบรรลุเป้าหมายของตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการตั้งคำถามที่กระตุ้นให้เกิดการคิดและวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง ทำให้ผู้รับการโค้ชสามารถค้นพบคำตอบและแนวทางแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง

ขั้นตอนของ GROW Model

G: Goal (เป้าหมาย): กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ และเป็นสิ่งที่ผู้รับการโค้ชต้องการจริงๆ

คำถามตัวอย่าง: เป้าหมายที่คุณอยากบรรลุคืออะไร? ทำไมเป้าหมายนี้ถึงสำคัญสำหรับคุณ?

R: Reality (ความเป็นจริง): วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และอุปสรรคที่อาจพบเจอ

คำถามตัวอย่าง: สถานการณ์ปัจจุบันของคุณเป็นอย่างไร? อะไรคือสิ่งที่ขัดขวางไม่ให้คุณบรรลุเป้าหมาย?

O: Options (ทางเลือก): ค้นหาทางเลือกและแนวทางต่างๆ ที่สามารถนำไปสู่เป้าหมาย

คำถามตัวอย่าง: มีทางเลือกอะไรบ้างที่คุณสามารถทำได้? ทางเลือกไหนที่คุณคิดว่าเหมาะสมกับคุณที่สุด?

W: Will (สิ่งที่จะเกิดขึ้น) : กำหนดแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม และสร้างแรงจูงใจให้ตัวเอง

คำถามตัวอย่าง: คุณจะเริ่มต้นอย่างไร? คุณจะติดตามความคืบหน้าอย่างไร? คุณจะรับมือกับอุปสรรคได้อย่างไร?

เทคนิคการโค้ชด้วย GROW Model ให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด

สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย ทำให้ผู้รับการโค้ชรู้สึกสบายใจและกล้าที่จะเปิดใจ
ฟังอย่างตั้งใจ ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ผู้รับการโค้ชพูดและรู้สึก
ถามคำถามที่เปิดกว้าง กระตุ้นให้เกิดการคิดและวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง
หลีกเลี่ยงการให้คำแนะนำโดยตรง ให้ผู้รับการโค้ชเป็นคนค้นพบคำตอบด้วยตัวเอง
ให้กำลังใจและชื่นชม สร้างแรงจูงใจและความมั่นใจให้กับผู้รับการโค้ช
ปรับใช้ GROW Model ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล แต่ละคนมีความแตกต่างกัน การโค้ชจึงต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม

ตัวอย่างการใช้ GROW Model

สมมติว่าคุณต้องการช่วยเพื่อนที่กำลังรู้สึกเครียดกับงานให้ผ่อนคลายมากขึ้น

G: เป้าหมาย: ต้องการลดความเครียดและเพิ่มความสุขในการทำงาน
R: ความเป็นจริง: ทำงานหนักเกินไป ไม่มีเวลาพักผ่อน และรู้สึกว่างานไม่มีความก้าวหน้า
O: ทางเลือก: ปฏิเสธงานบางส่วน, หาเวลาพักผ่อนมากขึ้น, พูดคุยกับหัวหน้างานเกี่ยวกับภาระงาน
W: แผนปฏิบัติการ: จะเริ่มต้นด้วยการวางแผนตารางเวลาใหม่เพื่อให้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น และจะไปปรึกษาหัวหน้างานในสัปดาห์หน้า

การนำ GROW Model ไปใช้ในองค์กร

การนำ GROW Model ไปใช้ในองค์กรสามารถช่วยพัฒนาพนักงานและส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ เช่น

การพัฒนาพนักงาน: ใช้ในการประเมินผลการทำงาน วางแผนพัฒนาอาชีพ และแก้ไขปัญหาในการทำงาน
การสร้างทีม: ใช้ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทีม และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในทีม
การนำไปใช้ในการประชุม: ใช้ในการอภิปรายและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน

สรุป

GROW Model เป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีประโยชน์ สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายส่วนตัวหรือเป้าหมายในการทำงาน GROW ย่อมาจาก 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ G: Goal (เป้าหมาย): กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ และเป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ R: Reality (ความเป็นจริง): วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และอุปสรรคที่อาจพบเจอ O: Options (ทางเลือก): ค้นหาทางเลือกและแนวทางต่างๆ ที่สามารถนำไปสู่เป้าหมาย W: Will (สิ่งที่จะเกิดขึ้น) : กำหนดแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม และสร้างแรงจูงใจให้ตัวเอง