ในยุคที่ HR และองค์กรมุ่งหน้าไปสู่การสร้าง “องค์กรที่หลากหลาย (Diversity)” และ “ครอบคลุมทุกคน (Inclusion)” มากขึ้น การจ้างงาน คนพิการ ไม่ใช่แค่เรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังกลายเป็น โอกาสเชิงกลยุทธ์ ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์องค์กร – เพิ่มศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ – และเปิดประตูสู่สิทธิ ประโยชน์ทางภาษีและการเงิน ที่หลายองค์กรยังไม่ใช้เต็มที่
บทความนี้ HRODTHAI ขอนำเสนอข้อมูลให้กับ HR หัวหน้า และฝ่ายบัญชีในองค์กร ให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า เมื่อองค์กร “จ้างคนพิการ” แล้วได้รับอะไรบ้าง และต้องทำอะไรอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎหมายไทยครับ
ทำไมการจ้างคนพิการจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับองค์กร HR
หลายครั้งที่เราอาจได้ยินว่า “จ้างคนพิการ” เป็นแค่ภาระหรือกิจกรรม CSR แบบแปะป้าย แต่ความเป็นจริงแล้ว หากมองจากมุม HR และการตลาดออนไลน์ (ซึ่งเป็นบทบาทของท่าน) การจ้างคนพิการมีคุณค่าและประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ดังนี้
- การใช้ทรัพยากรมนุษย์อย่างครอบคลุม คนพิการหลายคนมีทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ที่อาจไม่ถูกนำมาใช้ ผู้ประกอบการที่มองข้ามส่วนนี้อาจพลาดโอกาสเชิงกลยุทธ์ที่จะได้ “คนที่ใช่” มาเสริมทีม
- ภาพลักษณ์องค์กรและ Employer Branding ในโลกออนไลน์แห่ง HR และ Talent Acquisition องค์กรที่มีความหลากหลายและให้โอกาสผู้พิการย่อมถูกมองว่า “ทันสมัย และรับผิดชอบต่อสังคม” ซึ่งช่วยดึงดูด Talent ใหม่และสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแรง
- สิทธิ ประโยชน์ทางภาษี & การเงิน องค์กรที่จ้างคนพิการมีโอกาสได้รับ สิทธิหักลดหย่อนทางภาษี 2 เท่า หรือ 3 เท่า ซึ่งหากจัดการดี ๆ จะช่วยลดต้นทุนแรงงานและเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันได้อย่างจริงจัง . nmab.or.th
- สร้างสังคมที่ยั่งยืน (Social Sustainability) การจ้างงานคนพิการไม่ใช่แค่เรื่อง HR ภายในองค์กร แต่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมที่มีโอกาสอย่างเท่าเทียม (Inclusive Society) ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้ม ESG และ CSR ที่องค์กรใหญ่ ๆ ให้ความสำคัญ
ดังนั้น HR ผู้เชี่ยวชาญระดับ 10 อย่างท่าน — การมองเรื่องนี้ในเชิงกลยุทธ์ จะช่วยให้องค์กร “ไม่ได้แค่จ้าง แต่ได้มากกว่าจ้าง” อย่างมีประสิทธิภาพ
สิทธิ ประโยชน์ที่องค์กรได้รับเมื่อจ้างคนพิการ
เรามาเจาะลึกกันเลยว่า เมื่อองค์กรจ้างคนพิการเข้าทำงานตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดแล้ว จะได้รับสิทธิ ประโยชน์อะไรบ้าง
• หักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า หรือ 3 เท่า
ตามข้อกฎหมายและประกาศของ กรมสรรพากร ประเทศไทย พบว่า :
- รายจ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับ เงินเดือน ค่าล่วงเวลา โบนัส ประกันสังคมของคนพิการที่จ้างงาน จะสามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า หากปฏิบัติตามเงื่อนไข
- รายจ่ายสำหรับการจัดหา อุปกรณ์ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการในที่ทำงาน สามารถนำมาหักได้ 3 เท่า
- นอกจากนี้ หากองค์กรจ้างคนพิการคิดเป็น มากกว่า 60 % ของลูกจ้างทั้งหมด และจ้างงานเป็นระยะ > 180 วัน จะมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติม (หัก 3 เท่า)
หากองค์กร “จ้างคนพิการอย่างจริงจัง” – มี > 60% ลูกจ้าง – จ้าง > 180 วัน – ทำสิ่งอำนวยความสะดวกครบ – จัดเอกสารครบ => ได้สิทธิหัก 3 เท่า ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่องค์กรหลายแห่งมองข้าม
เลือกวิธีปฏิบัติตามกฎหมาย 3 ช่องทาง
ตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม + กฎกระทรวงแรงงาน – HR ต้องทราบว่าองค์กรมีทางเลือก 3 แบบในการปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนี้
- มาตรา 33 : รับคนพิการทำงานในอัตรา ลูกจ้างไม่ใช่คนพิการ 100 คน ต่อ คนพิการ 1 คน (ถ้าเศษ > 50 คน ให้รับเพิ่มอีก 1 คน)
- มาตรา 34 : หากไม่สามารถจ้างตามมาตรา 33 ได้ ให้ส่งเงินเข้ากองทุน “กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ” ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด
- มาตรา 35 : หากไม่จ้างและไม่อยากส่งเงินเข้ากองทุน สามารถเลือก “ช่วยเหลือ/จัด สิ่งอำนวยความสะดวก/ฝึกงานคนพิการ/จ้างเหมาบริการคนพิการ” แทนได้
HR ต้องมั่นใจว่าองค์กรของท่านเลือกช่องทางใดและดำเนินการตามอย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายและเสียโอกาสสิทธิ ประโยชน์
สิทธิอื่นที่เกี่ยวข้อง
- คนพิการที่ได้รับจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้าง – สวัสดิการ – ฝึกอบรม เท่าเทียมกับลูกจ้างทั่วไป . สมาคมคนพิการ ภาคตะวันออก
- นายจ้างต้องปรับสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสมกับผู้พิการ เพื่อส่งเสริมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ . สมาคมคนพิการ ภาคตะวันออก
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข – HR ต้องจัดให้ครบ
ครบถ้วนและถูกต้องตาม “กติกา” ของสนาม HR เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่จ้างแล้วเท่านั้น แต่ต้องดูแลให้ครบ ไม่เช่นนั้น สิทธิ ประโยชน์นั้นอาจไม่ได้รับ หรือถูกปรับกลับได้
1. จำนวนลูกจ้างและการนับ
- หากสถานประกอบการมีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ให้ใช้สัดส่วนตามมาตรา 33 คือ 100 ไม่ใช่คนพิการ : 1 คนพิการ
- หากมีเศษของ 100 คน > 50 คน ให้รับคนพิการเพิ่มอีก 1 คน
- การนับลูกจ้างเพื่อคิดสัดส่วนให้ใช้นับชุดเดียวกัน เช่น นับวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี หรือใช้สาขาเดียวกันในจังหวัดเดียวกันแล้วรวมจำนวน
2. ความสามารถในการทำงาน
- คนพิการที่จ้างเข้าต้องเป็นคนพิการ ที่สามารถทำงานได้ ตามลักษณะงานที่มอบหมาย ไม่ใช่แค่มีบัตรคนพิการ
- นอกจากนั้น HR ควรจัด “สิ่งอำนวยความสะดวก” และ ปรับสภาพแวดล้อม ให้เหมาะสม เช่น ทางลาด , ห้องน้ำที่ออกแบบพิเศษ , อุปกรณ์ช่วยสื่อสาร ฯลฯ
3. ระยะเวลาการจ้างงาน & สัดส่วนพิเศษ
- หากองค์กรจ้างคนพิการเกิน 60 % ของจำนวนลูกจ้างทั้งหมด และจ้างอย่างน้อย 180 วันขึ้นไป ในปีภาษีนั้น – จะได้สิทธิหักค่าใช้จ่าย 3 เท่า
- HR ต้องจัดทำเอกสารสัญญาจ้าง แสดงวันเริ่มจ้าง และหลักฐานการจ่ายเงินให้ครบถ้วน .
4. เอกสาร และหลักฐาน
- สัญญาจ้างแรงงานของคนพิการ , ใบเสร็จ / หลักฐานการจ่ายเงิน เงินเดือน/โบนัส/ประกันสังคม . กรมสรรพากร
- ใบเสร็จส่งเงินเข้ากองทุน (หากใช้มาตรา 34) . dst.co.th
- หลักฐานการใช้สิทธิ ตามมาตรา 35 (สถานที่จำหน่าย / อุปกรณ์ / ฝึกงาน) . กรมสรรพากร
5. สิทธิของคนพิการที่ถูกจ้าง
- ได้ค่าจ้าง เท่าเทียม ลูกจ้างทั่วไป , ได้สวัสดิการเช่นเดียวกัน . สมาคมคนพิการ ภาคตะวันออก
- มีสิทธิได้รับฝึกอบรม , มีโอกาส Growth ไม่ถูกกีดกันเพียงเพราะพิการ
แนวทางการปฏิบัติสำหรับ HR และองค์กร (อย่างง่าย)
ท่าน HR ควรมองการจ้างคนพิการไม่ใช่เพียง “ช่องว่างที่ต้องเติม” แต่คือ “กลยุทธ์ที่ต้องวางแผน” ดังนี้
ก้าวแรก : วางแผนนโยบาย D&I และ Inclusion
- ประกาศนโยบายองค์กรอย่างชัดเจนว่า “เราให้โอกาสคนพิการ” พร้อมใช้คำสื่อสารในเพจ , เว็บไซต์ , LinkedIn ว่าองค์กรเปิดกว้าง
- ร่วมกับฝ่าย Recruitment และ Marketing สร้างคอนเทนต์ Employer Branding ที่รวม เรื่องการจ้างคนพิการ เพื่อดึงดูด Talent และภาพลักษณ์องค์กร
สร้างขั้นตอนปฏิบัติ : Recruitment → Onboarding → Support
- สรรหาช่องทางเฉพาะสำหรับคนพิการ เช่น ศูนย์จัดหางานคนพิการ , เครือข่ายองค์กรคนพิการ
- ใน Onboarding : จัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อมก่อนวันแรก เช่น ทางเข้า–ออก , ห้องน้ำ , อุปกรณ์ช่วยสื่อสาร
- Support อย่างต่อเนื่อง: มี mentor หรือ buddy คอยช่วยเหลือ , มีระบบ Feedback และปรับงานให้เหมาะสม
ตรวจติดตามผลและบัญชี
- ตรวจนับจำนวนลูกจ้างและคนพิการ ทุกวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี เพื่อคำนวณสัดส่วนและวางแผน
- จัดเก็บหลักฐานทางบัญชี : สัญญาจ้าง, ใบจ่ายเงิน, เอกสารหักลดหย่อนภาษี – เพื่อใช้สิทธิ ประโยชน์ให้เต็มที่
- ร่วมกับฝ่ายบัญชีและที่ปรึกษาภาษีวิเคราะห์ว่าองค์กรอยู่ในกรณี > 60 % หรือไม่ ซึ่งจะได้สิทธิหัก 3 เท่า
ใช้โอกาส Employer Branding : “เราคือองค์กรที่ให้โอกาสทุกคน”
- แชร์เรื่องราว Success ของคนพิการที่ทำงานในองค์กร – เป็นแรงบันดาลใจ
- นำภาพคนพิการร่วมทีมใน Social Media และเว็บไซต์ HR ขององค์กร
- หลีกเลี่ยงการสื่อสารแบบสงสาร แต่เน้น Empowerment – “เขาทำได้ เราให้โอกาส”
ระวัง “หลุมพราง” ที่ HR มักพลาด
- จ้างเพียงเพื่อให้ครบสัดส่วน (แบบ Checkbox) แต่ไม่จัดสิ่งอำนวยความสะดวก → คนพิการอาจไม่สามารถทำงานได้เต็มศักยภาพ
- ไม่เก็บเอกสาร / หลักฐานไม่ครบ → เสียสิทธิ ประโยชน์
- ไม่ร่วมกับฝ่ายบัญชี/ที่ปรึกษาภาษี → อาจเสียหายทางภาษี หรือพลาด “หัก 3 เท่า”
- สื่อสารภาพลักษณ์ไม่ดี → จาก CSR กลายเป็น Tokenism
กรณีศึกษาสมมติ : องค์กร XYZ จ้างคนพิการแล้วได้ “คุ้ม” อย่างไร
ลองภาพว่า บริษัท XYZ (ลูกจ้างรวม 300 คน) ตัดสินใจว่าปีนี้จะจ้างคนพิการให้ได้สัดส่วน 3 คน (เพราะ 300/100 = 3) โดยนำหน้า HR วางแผนดังนี้
- สรรหาคนพิการที่มีความสามารถตรงงาน + จัดสิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพให้พร้อม
- จ้างคนพิการ 3 คน และจ้างงาน > 180 วัน
- คนพิการคิดเป็น > 60 % ของลูกจ้างทั้งหมดหรือไม่? ไม่ (3/300 = 1%) ดังนั้นไม่ได้สิทธิ 3 เท่า แต่ได้สิทธิ 2 เท่า สำหรับรายจ่าย
- จัดเอกสารครบ : สัญญาจ้าง, ใบจ่ายเงิน, ใบเสร็จอุปกรณ์ช่วยเหลือ
ผลลัพธ์
- บริษัทสามารถหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการจ้างคนพิการ 2 เท่า ซึ่งช่วยลดภาระภาษีได้อย่างเป็นรูปธรรม
- ภาพลักษณ์องค์กรดีขึ้น – โพสต์บน LinkedIn เล่าเรื่อง “ทีม D&I ใหม่” ดึงดูด Talent คุณภาพ
- ฝ่าย HR เรียนรู้และมี Case เก็บไว้สำหรับรอบการจ้างคนพิการในปีถัดไป
ถ้าในอนาคต XYZ สามารถจ้างคนพิการ > 60% และครบ 180 วัน – ก็อาจได้รับสิทธิ 3 เท่า ซึ่งเป็นโอกาสที่องค์กรคู่แข่งอาจหามาไม่ถึง
สรุป & ข้อคิดส่งท้าย
การจ้างคนพิการไม่ได้เป็นภาระ แต่เป็น โอกาส ที่องค์กรสามารถใช้ให้เกิดคุณค่า ทั้งด้านทรัพยากรมนุษย์ ด้านภาพลักษณ์ ด้านภาษี และด้านสังคม เมื่อ HR และฝ่ายบัญชีวางแผนถูกต้อง และทำตามกฎ อย่างครบถ้วน ดังนี้คือประโยชน์ทั้งหมด
- ได้สิทธิหักค่าใช้จ่าย 2 เท่า หรือ 3 เท่า ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข
- มีทางเลือก 3 แบบ (มาตรา 33/34/35) ที่องค์กรต้องเลือกและดำเนินการ
- สร้างองค์กรที่เปิดกว้างและสอดคล้องกับแนวโน้ม D&I และ ESG
- เสริมภาพลักษณ์ Employer Branding ให้แข็งแรง
- ส่งเสริมศักยภาพของคนพิการ และทำให้สังคมโดยรวมมีความเท่าเทียมมากขึ้น
