โลกการทำงานในปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทต่อทุกมิติของธุรกิจ ตั้งแต่การดำเนินงาน การสื่อสารภายในองค์กร ไปจนถึงการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) ไม่อาจทำงานแบบเดิมได้อีกต่อไป
งาน HR Transformation 2024 ที่จัดขึ้นโดย TOPPRO จึงถือเป็นเวทีสำคัญที่รวมผู้เชี่ยวชาญ นักทรัพยากรมนุษย์ ผู้บริหาร และผู้จัดการจากหลายองค์กร มาแลกเปลี่ยนมุมมอง เรียนรู้แนวทางใหม่ ๆ และสำรวจอนาคตของการบริหารคนในยุคดิจิทัล ความตั้งใจของการจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงเพื่ออัปเดตเทรนด์ แต่ยังมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ HR ไทยพร้อมก้าวสู่การเป็น Strategic Partner ที่ขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า
บรรยากาศการจัดงาน อบอุ่นและเต็มไปด้วยพลังแห่งการเรียนรู้
วันที่ 28 กันยายน 2566 ณ ห้องมารีน่า 1 ชั้น 2 โรงแรมโนโวเทล ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังบวกตั้งแต่เช้าตรู่ ทีมงาน TOPPRO จัดการต้อนรับผู้เข้าร่วมอย่างอบอุ่น ภายในห้องประชุมถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ เรียบง่ายแต่สง่างาม แสดงถึงความเป็นมืออาชีพของผู้จัดงาน
ผู้เข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้หลากหลาย ทั้งฝ่าย HR จากบริษัทอุตสาหกรรม ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ผู้บริหารระดับสูง ตลอดจนผู้ที่สนใจการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทุกคนมาด้วยความคาดหวังที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่และนำกลับไปต่อยอดในองค์กรของตนเอง
บรรยากาศโดยรวมอบอุ่นและคึกคัก เสียงพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นดังขึ้นตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน ทำให้เห็นได้ชัดว่าการจัดสัมมนาครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียง “การฟังบรรยาย” เท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่สร้างเครือข่ายและมิตรภาพระหว่างคนทำงานด้าน HR
ในช่วงพิธีเปิดงาน ได้รับเกียรติจาก คุณพรผกา ไพสิฐธนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทตรวจสอบบัญชี ท๊อปไฟว์ จำกัด และ บริษัท ท๊อปไฟว์ แอคเคาน์ติ้ง แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ขึ้นกล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน พร้อมทั้งกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ
คุณพรผกาได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับบทบาท HR ในยุคที่องค์กรกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและความท้าทายด้านแรงงาน พร้อมระบุว่า โครงการสัมมนา HR Transformation 2024 ครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้รับทั้งองค์ความรู้เชิงวิชาการและแนวทางเชิงปฏิบัติ สามารถนำกลับไปใช้จริงในการพัฒนาองค์กรให้ก้าวทันโลกธุรกิจยุคใหม่
บรรยากาศในช่วงพิธีเปิดเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง เสียงปรบมือจากผู้เข้าร่วมสะท้อนถึงความพร้อมที่จะเรียนรู้และเปิดรับแนวคิดใหม่ ๆ ในการทำงานด้าน HR
คุณกฤตพลลภ์ คิรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท๊อป โปรเฟสชั่นแนล แอนด์ ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด คุณกฤตพลลภ์ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมทุกท่านอย่างอบอุ่น พร้อมทั้งขอบคุณองค์กรและผู้บริหารที่ให้ความไว้วางใจเข้าร่วมงานสัมมนา HR Transformation 2024 Presented by TOPPRO ในครั้งนี้ ท่านได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาองค์ความรู้และการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากร โดยเฉพาะในด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่ต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
คำกล่าวทักทายและขอบคุณจากผู้บริหาร TOPPRO สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความเป็นกันเอง ทำให้ผู้เข้าร่วมสัมมนารู้สึกถึงคุณค่าของการมีส่วนร่วมในเวทีการเรียนรู้ครั้งนี้อย่างแท้จริง
คุณกฤตพลลภ์ ได้แสดงความรู้สึกซาบซึ้งใจที่ทุกท่านให้เกียรติมาร่วมงาน พร้อมทั้งขอบคุณที่ได้ร่วมเดินทางเคียงข้างกันมาตลอด จน TOPPRO ก้าวเข้าสู่ปีที่ 19 ของการดำเนินงาน ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่ไม่ง่ายนัก เพราะเต็มไปด้วยอุปสรรค ความท้าทาย และบทเรียนที่ต้องเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ
เขาได้กล่าวย้ำว่า การเดินทางที่ผ่านมาไม่เพียงแต่สร้างความสำเร็จให้กับองค์กร แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ของความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่แน่วแน่ สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าร่วมงานและคนทำงานทุกคนว่า หากเราพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง รับมือกับความท้าทายด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ ความสำเร็จย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
บรรยากาศในห้องสัมมนาเต็มไปด้วยความอบอุ่นและพลังบวก ผู้เข้าร่วมต่างสัมผัสได้ถึงความจริงใจและความมุ่งมั่นของผู้บริหารที่ไม่เพียงแต่สร้างธุรกิจ แต่ยังสร้างคุณค่าและแรงบันดาลใจให้กับวงการ HR ของไทย
Employee Engagement: SCG Case Study
โดย คุณเทวิณทร์ สมงาม Corporate Human Resources Director บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
หนึ่งในช่วงที่ผู้เข้าร่วมให้ความสนใจมากที่สุด คือการนำเสนอกรณีศึกษาจาก SCG ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์มาอย่างยาวนาน คุณเทวิณทร์ สมงาม ได้ถ่ายทอดแนวคิดและกลยุทธ์ที่ SCG ใช้ในการสร้างความผูกพันระหว่างพนักงานกับองค์กร (Employee Engagement) อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
ประเด็นสำคัญที่ SCG ทำได้อย่างโดดเด่น ได้แก่
- การสร้างระบบการสื่อสารที่เปิดกว้าง เปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระและได้รับการรับฟัง
- การออกแบบกิจกรรมตามความต้องการของแต่ละช่วงวัย เพื่อให้สอดคล้องกับแรงจูงใจและค่านิยมของคนในแต่ละเจเนอเรชัน
- การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นมิตรและส่งเสริมการพัฒนา ทำให้พนักงานรู้สึกภาคภูมิใจและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กร
การบรรยายที่อ้างอิงจากกรณีศึกษาจริงนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจแนวคิดเชิงทฤษฎี แต่ยังเห็นภาพที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในองค์กรของตนเองทันที
คุณเทวิณทร์ได้อธิบายว่า ตัวชี้วัดสำคัญที่สุดในการป้องกันไม่ให้พนักงานเผชิญสภาวะเหล่านี้ ไม่ใช่เพียงการลดภาระงานหรือเพิ่มสวัสดิการ แต่คือ “ความรู้สึกว่างานที่ทำนั้นมีความหมาย” เมื่อพนักงานเห็นว่าหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบเชื่อมโยงกับเป้าหมายที่ใหญ่กว่า พลังใจและความผูกพันกับองค์กรจะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลชีวิตมากขึ้น พวกเขามักพยายามเลี่ยงสภาวะ “หมดไฟ” ด้วยการขีดเส้นแบ่งระหว่าง “งาน” และ “ชีวิต” ให้ชัดเจน หากไม่สามารถหาความหมายจากงานได้ พนักงานจำนวนไม่น้อยจึงเลือกใช้วิธี “ทำงานตามมาตรฐานขั้นต่ำ” ที่องค์กรคาดหวัง หรือที่เรียกว่า Quiet Quitting เพื่อรักษาความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว
ประเด็นนี้สะท้อนถึงมุมมองใหม่ที่ฝ่าย HR ต้องเข้าใจว่า การบริหารคนไม่ได้หมายถึงการควบคุมปริมาณงานเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้พนักงานรู้สึกว่า “การทำงานในองค์กรนี้มีคุณค่า” และตอบโจทย์ความต้องการของทั้งคนทำงานและองค์กรในระยะยาว
HR Trend Transformation 2024
โดย ดร.ชาติชาย จาดตานิม หนึ่งในไฮไลท์ของงานสัมมนาครั้งนี้คือการบรรยายเรื่อง HR Trend Transformation 2024 โดย ดร.ชาติชาย จาดตานิม ผู้เชี่ยวชาญด้านการยกระดับทรัพยากรบุคคล ซึ่งได้ชี้ให้เห็นภาพรวมและทิศทางของงาน HR ในอนาคตอย่างชัดเจน เนื้อหาสำคัญ
ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
- HR กับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้เปลี่ยนภูมิทัศน์ของการทำงานอย่างสิ้นเชิง งาน HR ไม่ได้จำกัดอยู่ที่การบริหารบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่ต้องทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญที่สนับสนุนการขยายตัวขององค์กร ดร.ชาติชายได้อธิบายว่า การเปลี่ยนผ่านนี้ทำให้บทบาท HR ต้องขยับจากการทำงานเชิงสนับสนุน ไปสู่การเป็น Strategic Partner ที่มีบทบาทต่อการกำหนดทิศทางองค์กรโดยตรง
- วัตถุประสงค์ของ HR Transformation 2024 จุดมุ่งหมายหลักของการเปลี่ยนผ่าน คือการสร้าง HR ที่มีความยืดหยุ่น คล่องตัว และพร้อมตอบสนองความต้องการใหม่ของตลาดแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นการดึงดูดคนเก่ง การรักษาคนดี หรือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่รองรับการเปลี่ยนแปลง
- การพัฒนาทักษะด้านการปรับปรุงข้อมูลเชิงดิจิทัล (Digital Skill Development) อีกหนึ่งหัวใจสำคัญคือการพัฒนา “Digital HR Skills” ให้กับบุคลากร HR เพื่อนำข้อมูลเชิงดิจิทัลมาปรับใช้ในการบริหารงาน ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์พฤติกรรมพนักงาน การจัดการข้อมูลบุคคลากรด้วย HR Analytics หรือการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน
การบรรยายของ ดร.ชาติชาย ไม่เพียงทำให้ผู้เข้าร่วมได้มุมมองที่ชัดเจน แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ HR ไทยมองเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงนี้คือ “โอกาส” ที่จะทำให้ตนเองก้าวไปสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงขององค์กรในอนาคต
Advance Labor Law: อัปเดตกฎหมายแรงงานใหม่
อีกหนึ่งหัวข้อที่ได้รับความสนใจสูงคือการอัปเดตกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ โดยเฉพาะสำหรับฝ่ายบริหารงานบุคคล หัวหน้างาน และผู้จัดการ
ผู้บรรยายได้อธิบายถึงข้อกฎหมายล่าสุดที่องค์กรควรตระหนัก เช่น การปรับสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง การคุ้มครองแรงงานรูปแบบใหม่ รวมถึงแนวโน้มการปรับแก้กฎหมายเพื่อรองรับการทำงานแบบ Hybrid Work และ Gig Economy
การนำเสนอเป็นไปอย่างชัดเจน พร้อมยกตัวอย่างสถานการณ์จริงในองค์กร ทำให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจง่ายและสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที
ไม่เพียงเท่านั้น อาจารย์ไพรวัลย์ เลิศสิริ วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายแรงงานมากกว่า 25 ปี ยังได้ฝากคำพูดที่สร้างทั้งเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือในห้องสัมมนาไว้ว่า
“ทรัพยากรบุคคล หรือ เรียกง่าย ๆ ว่า General เบ๊”
อาจารย์ไพรวัลย์ เลิศสิริ ยังได้สะท้อนภาพลักษณ์ที่คนทำงาน HR หลายคนคุ้นเคยด้วยคำพูดว่า “ทรัพยากรบุคคล หรือ เรียกง่าย ๆ ว่า General เบ๊” ซึ่งสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในห้องสัมมนา แต่ก็แฝงแง่คิดสำคัญว่า งาน HR ไม่ควรถูกมองว่าเป็นเพียงงานเบ็ดเตล็ด หากแต่เป็นฟันเฟืองหลักที่จะผลักดันให้องค์กรเดินหน้าอย่างยั่งยืน
แม้จะเป็นถ้อยคำที่ฟังดูขบขัน แต่ก็สะท้อนความจริงที่คนทำงาน HR ส่วนใหญ่เผชิญอยู่เสมอ เพราะต้องแบกรับงานสารพัดอย่างในองค์กร ทั้งงานเอกสาร งานบุคคล ไปจนถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างต่อเนื่อง คำพูดนี้จึงไม่เพียงเรียกรอยยิ้ม แต่ยังทำให้ทุกคนในห้องได้ฉุกคิดว่า บทบาทของ HR ควรถูกมองในเชิงกลยุทธ์และคุณค่า ไม่ใช่เพียงงานเบ็ดเตล็ดที่ใครก็ทำได้
บทสรุปและการต่อยอด
งานสัมมนา HR Transformation 2024 Presented by TOPPRO ไม่ได้เป็นเพียงเวทีการถ่ายทอดความรู้ แต่เป็น “จุดประกาย” ให้ HR ไทยเห็นว่าการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลไม่ใช่สิ่งที่ควรรอ แต่เป็นสิ่งที่ต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้
ผู้เข้าร่วมต่างสะท้อนว่า งานนี้ทำให้พวกเขาได้มุมมองใหม่ ๆ และพร้อมที่จะกลับไปปรับใช้จริงในองค์กร TOPPRO ในฐานะผู้จัดงานจึงประสบความสำเร็จในการสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่ทั้งลึกซึ้งและสร้างสรรค์
และที่สำคัญ บทเรียนจากการสัมมนาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า HR ไม่ได้ทำงานเพียงเพื่อสนับสนุนธุรกิจ แต่คือ ผู้นำการเปลี่ยนแปลง ที่ทำให้องค์กรไทยก้าวทันโลกอนาคตได้อย่างมั่นคง
หากคุณไม่อยากพลาดโอกาสเช่นนี้ในครั้งหน้า อย่าลืมติดตามกิจกรรมและหลักสูตรการอบรมจาก TOPPRO ที่จะยังคงเดินหน้าพัฒนาวงการ HR ของไทยอย่างต่อเนื่องใหม่
ขอขอบพระคุณจากใจทีมงาน HRODTHAI BY TOPPRO
งาน HR Transformation 2024 Presented by TOPPRO จึงไม่ใช่เพียงแค่เวทีการเรียนรู้ แต่ยังเป็นจุดเชื่อมโยงความคิด แรงบันดาลใจ และเครือข่ายของคนทำงานด้าน HR ที่จะก้าวไปด้วยกันอย่างแข็งแรงในอนาคต
ในนามทีมงาน HRODTHAI ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาองค์กรและยกระดับทรัพยากรมนุษย์ไทยให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่อไป และพบกันใหม่ที่งาน งาน HR Transformation 2025 Presented by TOPPRO นะคะ