บทความ

How To 6 วิธีที่ทุกคนสามารถใช้รับมือกับ Post-vacation Blues

Post-vacation Blues หรืออาการซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว เป็นภาวะอารมณ์ด้านลบที่หลายคนคุ้นดี โดยเฉพาะคนทำงานอย่างพวกเรา… หยุดยาวทีไร ใจก็ยังค้างอยู่ริมทะเล คาเฟ่บนภูเขา หรือไม่ก็ยังหลงอยู่ในโหมดพักผ่อน จนพอถึงเวลาต้องกลับมาลุยงานจริง ๆ ร่างกายไปทำงานได้ แต่ใจยังลากกระเป๋าอยู่ที่รีสอร์ตอยู่เลย

แม้อาการนี้จะไม่ใช่โรคทางจิตเวช แต่ก็สามารถรบกวนการทำงานและความรู้สึกในแต่ละวันได้ไม่น้อย โดยทั่วไปแล้วอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2–3 วัน แต่สำหรับบางคนอาจยาวไปถึง 2–3 สัปดาห์เลยทีเดียว สัญญาณที่พบบ่อย เช่น รู้สึกเหนื่อย เบื่อ ไม่อยากทำอะไร ขาดแรงจูงใจ และคล้ายภาวะหมดไฟในระยะเริ่มต้น

HOW TO 6 วิธีรับมือเตรียมตัวรับมือภาวะซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว Post-Vacation Blues

HOW TO 6 วิธีรับมือเตรียมตัวรับมือภาวะซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว Post-Vacation Blues

ในมุมของ HR และผู้บริหาร การเข้าใจสภาวะนี้ถือว่าสำคัญ เพราะ อารมณ์หลังวันหยุดยาวส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพงาน การตัดสินใจ และการมีส่วนร่วมของพนักงานในช่วงกลับเข้าทำงานใหม่ หากองค์กรช่วยดูแลจุดเล็ก ๆ เหล่านี้ได้ ก็สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิด Burnout ระยะยาว และช่วยให้ทีมกลับมาฟื้นพลังได้เร็วขึ้น

ต่อไปนี้คือ 6 วิธีที่ทุกคนสามารถใช้รับมือกับ Post-vacation Blues ได้ด้วยตัวเอง และองค์กรเองอาจนำไปปรับใช้เพื่อสนับสนุนพนักงานเช่นกัน

HOW TO 6 วิธีรับมือเตรียมตัวรับมือภาวะซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว Post-Vacation Blues

HOW TO 6 วิธีรับมือเตรียมตัวรับมือภาวะซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว Post-Vacation Blues


  1. หาแรงจูงใจบางอย่างให้ตัวเองอีกครั้ง
  2. การตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ เช่น โปรเจกต์ที่อยากทำให้สำเร็จ การพัฒนาทักษะใหม่ การรอคอยโบนัส หรือแม้แต่การคิดถึง “ลูกค้าหรือผู้รับบริการที่เราอยากช่วยให้เขาได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด” สิ่งเหล่านี้ช่วยให้การไปทำงานมีความหมายขึ้น และดึงพลังบวกกลับมาได้ดีมาก
  3. มองหาคุณค่าจากงานที่เราทำ
  4. แทนที่จะโฟกัสว่า “ต้องกลับไปทำงานอีกแล้ว” ลองมองว่า งานทำให้ตัวเราพัฒนาอย่างไร เช่น ได้ฝึกทักษะเฉพาะ ได้เจอผู้คนหลากหลาย มีโอกาสก้าวหน้า หรือช่วยให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์ การเห็นคุณค่าในงานทำให้ใจกลับมานิ่งและพร้อมเริ่มต้นมากขึ้น
  5. อยู่กับปัจจุบันให้มากขึ้น
  6. อดีตคือวันหยุดที่ผ่านไปแล้ว อนาคตคือวันหยุดครั้งถัดไปที่ยังไม่มาถึง วิธีอยู่กับปัจจุบันที่ทำได้ง่ายที่สุด คือการเขียน To-do List รายวัน จะช่วยให้เห็นว่ามีงานอะไรต้องทำ เห็นความคืบหน้าของตัวเอง และทำให้สมองกลับเข้าสู่โหมด “เริ่มต้นอย่างมีระบบ” อีกครั้ง
  7. เปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้สนุกขึ้น
  8. ถ้าการทำงานแบบเดิม ๆ ทำให้หมดไฟ ลองปรับบางอย่าง เช่น วิธีจัดการงาน การจัดโต๊ะทำงาน การใช้เทคนิคใหม่ในการคิดงาน หรือแม้แต่หาแรงบันดาลใจจากผลงานคนอื่น การสร้างความแปลกใหม่เล็ก ๆ ช่วยให้สมองรู้สึกท้าทายและตื่นตัวขึ้นได้ดี
  9. หาเพื่อนรู้ใจหรือทีมที่ทำงานด้วยแล้วมีพลัง
  10. คนเราทำงานกับ “มนุษย์” มากกว่า “งาน” เสียอีก การมีเพื่อนร่วมงานดี ๆ ทำให้บรรยากาศการกลับมาทำงานเต็มไปด้วยพลังบวก การทำงานเป็นคู่หรือเป็นทีมช่วยให้ความเครียดลดลง งานเสร็จเร็วขึ้น และความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นแบบเห็นได้ชัด
  11. วางแผนทริปหน้าไว้ตั้งแต่วันนี้
  12. ฟังดูง่าย แต่ได้ผลดีมาก เพราะสมองมนุษย์ชอบ “ความคาดหวังเชิงบวก” การคิดถึงวันหยุดครั้งต่อไปช่วยให้มีกำลังใจลุยงาน ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น และเป็นแรงผลักดันให้เคลียร์งานอย่างเป็นระบบเพื่อไปเที่ยวได้อย่างสบายใจ

แม้ Post-vacation Blues จะไม่ใช่ภาวะที่รุนแรง แต่มีผลต่อทัศนคติ ความคิด และความกระตือรือร้นในการทำงาน หากปล่อยไว้นานเกินไปอาจสะสมจนกลายเป็นสัญญาณของภาวะหมดไฟในระยะยาวได้ การรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง การจัดการงานอย่างเป็นระบบ และการสร้างบรรยากาศที่สนับสนุนในองค์กร ล้วนช่วยให้พนักงานกลับมาอยู่ในจังหวะการทำงานได้เร็วขึ้น

และที่สำคัญที่สุด… การพักผ่อนคือสิ่งดี แต่การกลับมาพร้อมใจที่พร้อมทำงานคือพลังที่สำคัญกว่า หากวันนี้ยัง “เหงาใจ เพราะคิดถึงเตียงในวันหยุด” ก็ไม่เป็นไร ให้เวลากับตัวเองสักนิด แล้วคุณจะพบว่าร่างกายและหัวใจจะค่อย ๆ กลับมาสู่โหมดปกติได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ข้อมูลอ้างอิง : กรมสุขภาพจิต

Topprofessional And Development

สถาบันฝึกอบรมและที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์และองค์กร บริการให้คำปรึกษาด้านระบบ ISO แบบครบวงจรด้วยหลักสูตรคุณภาพอาจารย์ผู้สอนมากด้วยประสบการณ์

วันทำการ ( จันทร์ - เสาร์ เวลา 8:00 - 17:00 น. )

ติดตามเรา

icon-facebookicon-lineicon-youtubeicon-tiktok
Copyright 2023 © HERMES Digital Marketing . All Rights Reserved