บทความ

DISC for Teamwork รู้จักตัวเองและเข้าใจผู้อื่น เพื่อการทำงานเป็นทีม

DISC เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์พฤติกรรมที่มักถูกนำมาใช้ในบริบทการทำงานเป็นทีม เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณรู้จักตัวเองและเข้าใจผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้การทำงานเป็นทีมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

Disc model คืออะไร

Disc model คืออะไร

Disc model คืออะไร

DISC Model เป็นระบบการวิเคราะห์บุคลิกภาพที่ใช้ในการอธิบายและทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมและลักษณะบุคลิกภาพของบุคคล โดยระบบนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นจากงานวิจัยของ William Moulton Marston ในปี ค.ศ. 1928 และได้รับความนิยมในการใช้ในการพัฒนาทักษะการบริหารและการสื่อสารในองค์กรและทีมงานต่าง ๆ แบ่งคนออกเป็น 4 กลุ่มหลักๆ ดังนี้

1. D - Dominance (เน้นความมุ่งมั่น ผลลัพธ์ และความท้าทาย)

  • ชอบทำงานท้าทาย
  • ตัดสินใจเร็ว
  • ชอบควบคุม
  • มั่นใจในตัวเอง
  • ชอบแข่งขัน
  • เด็ดขาด
  • ไม่ชอบความยุ่งยาก
  • ใจร้อน

2. I - Influence (เน้นการโน้มน้าว การสื่อสาร และความสัมพันธ์)

  • ชอบพูด
  • ชอบโน้มน้าว
  • ชอบสร้างแรงบันดาลใจ
  • ชอบเข้าสังคม
  • ชอบความสนุกสนาน
  • มองโลกในแง่ดี
  • ใจเย็น
  • ชอบช่วยเหลือ

3. S - Steadiness (เน้นความมั่นคง ระเบียบ และความรอบคอบ)

  • ชอบทำงานเป็นทีม
  • ชอบช่วยเหลือ
  • ชอบความสงบ
  • อดทน
  • ใจเย็น
  • รอบคอบ
  • ระเบียบ
  • ซื่อสัตย์

4. C - Conscientiousness (เน้นการวิเคราะห์ ความถูกต้อง และความละเอียด)

  • ชอบวิเคราะห์
  • ชอบความถูกต้อง
  • ชอบวางแผน
  • จริงจัง
  • ละเอียดรอบคอบ
  • มีเหตุผล
  • ชอบความเป็นส่วนตัว
  • ไม่ชอบความเสี่ยง

การนำ DISC Model ไปใช้

  • การเข้าใจตัวเอง: เข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน และสไตล์การทำงานของตัวเอง
  • การเข้าใจผู้อื่น: เข้าใจบุคลิกภาพ พฤติกรรม และแรงจูงใจของผู้อื่น
  • การพัฒนาความสัมพันธ์: พัฒนาความสัมพันธ์และการสื่อสารกับผู้อื่นที่มีสไตล์ DISC แตกต่างกัน
  • การทำงานเป็นทีม: ทำงานร่วมกับผู้อื่นที่มีสไตล์ DISC แตกต่างกันอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การบริหารจัดการ: บริหารจัดการทีมที่มีสมาชิกที่มีสไตล์ DISC แตกต่างกัน

ข้อดีของ DISC Model

  • เข้าใจตัวเองและผู้อื่นได้ดีขึ้น
  • พัฒนาความสัมพันธ์และการสื่อสาร
  • ทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ
  • บริหารจัดการทีมได้ดีขึ้น

ข้อจำกัดของ DISC Model

  • ไม่ใช่เครื่องมือที่วัดบุคลิกภาพได้อย่างสมบูรณ์
  • ไม่ควรใช้ DISC Model ตัดสินคน
  • ควรใช้ DISC Model เป็นเครื่องมือในการพัฒนาตัวเองและความสัมพันธ์


DISC มีความหมายและคำอธิบาย ดังนี้

DISC มีความหมายและคำอธิบาย ดังนี้

DISC มีความหมายและคำอธิบาย ดังนี้

  1. Dominance (D) - คนที่มีคุณสมบัติด้าน Dominance มักจะมีลักษณะเป็นผู้นำ มักเน้นการประมวลผลที่เป็นระเบียบ มักมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและควบคุมสถานการณ์ เมื่อต้องทำงานเป็นทีม พวกเขามักจะมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำหรือเป็นตัวแก้ไขปัญหาในทีม
  2. Influence (I) - คนที่มีคุณสมบัติด้าน Influence มักเป็นคนที่มีอารมณ์ดี มักมีความสามารถในการสร้างความกระตือรือร้นและความสนุกสนานในทีม พวกเขามักเป็นคนที่ชอบการโต้ตอบกับผู้อื่นและมักสนับสนุนความคิดเห็นของผู้อื่นในทีม
  3. Steadiness (S) - คนที่มีคุณสมบัติด้าน Steadiness มักเป็นคนที่เป็นมิตรและเป็นผู้รอบรู้ มักมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นและมีความอดทนในการดำเนินงาน พวกเขามักจะเน้นการสร้างความสงบสุขและความเข้าใจในทีม
  4. Compliance (C) - คนที่มีคุณสมบัติด้าน Compliance มักเป็นคนที่มีความตั้งใจและเป็นระเบียบ มักมีความสำคัญในรายละเอียดและความแม่นยำในงานที่ทำ พวกเขามักจะเน้นการวางแผนและการดำเนินงานอย่างมีวิจารณญาณในทีม
ในการทำงานเป็นทีม ความเข้าใจถึง DISC ของตนเองและผู้อื่นในทีมจะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวและสร้างความสอดคล้องกันในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ความเข้าใจในความแตกต่างระหว่างคนในทีม สามารถช่วยให้คุณสร้างบรรยากาศทำงานที่เป็นมิตรและมีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างความร่วมมือและความสำเร็จของทีมในงานที่ทำให้ดีขึ้นอย่างมาก

OBJECTIVE OF DISC

OBJECTIVE OF DISC

OBJECTIVE OF DISC

วัตถุประสงค์หลักของการประเมิน DISC คือ การพัฒนาความเข้าใจตนเองและการสื่อสารระหว่างบุคคล

  • รู้รูปแบบพฤติกรรมของตนเอง
  • รู้จุดเด่นและข้อจำกัดของตนเอง
  • ประเมินผู้อื่นได้จากพฤติกรรมที่แสดงออก
  • สามารถปรับพฤติกรรมของตนเองเพื่อการทำงานร่วมกับผู้อื่น
  • สามารถปรับพฤติกรรม
  • ของตนเองเพื่อเข้าหาลูกค้า
  • แต่ละประเภทได้อย่างเหมาะสม
  • รู้เทคนิคการชนะใจผู้อื่น

การสื่อสารกับ disc

การสื่อสารกับ disc

การสื่อสารกับ disc

การสื่อสารกับคนที่มีสไตล์ DISC ต่างกันอาจมีความแตกต่างเชิงพฤติกรรมอย่างชัดเจน ดังนั้น ความเข้าใจถึงแต่ละสไตล์ และวิธีการสื่อสารที่เหมาะสมสำหรับแต่ละสไตล์จะช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ต่อไปนี้คือวิธีการสื่อสารกับแต่ละสไตล์ DISC

สไตล์ Dominance (D)

  • เข้าใจว่าพวกเขามักชอบการสื่อสารที่ตรงไปตรงมาและกระชับ
  • มีข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็นอย่างชัดเจนและโดยตรง
  • เน้นที่ความสำคัญของการแสดงความคิดเห็นที่มีเหตุผลและเชื่อถือได้
  • อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังที่จะไม่ให้เกิดความขัดแย้งหรือการสัมผัสทางอารมณ์

สไตล์ Influence (I)

  • สร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและเป็นกันเอง
  • ใช้คำพูดที่เชื่อมโยงกับความสนใจและความรู้สึกของคนอื่น
  • ให้ความสำคัญกับการพูดคุยและการแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์
  • ต้องการการยอมรับและความชื่นชม

สไตล์ Steadiness (S)

  • สร้างความมั่นคงและความเข้าใจ
  • ใช้ภาษาที่อ่อนโยนและเป็นกันเอง
  • ขอที่จะฟังและให้ความสำคัญกับความรู้สึกและความคิดเห็นของผู้อื่น
  • หลีกเลี่ยงการสร้างความไม่สงบหรือความเครียด

สไตล์ Compliance (C)

  • ใช้ข้อมูลและรายละเอียดอย่างละเอียดในการสื่อสาร
  • ใช้ภาษาที่มีความเป็นระเบียบและเชื่อถือได้
  • ขอให้ความสำคัญกับความแม่นยำและความเชื่อถือได้
  • อาจต้องการเวลาในการปรับตัวและวางแผนก่อนการตัดสินใจ

การเข้าใจและใช้สไตล์การสื่อสารที่เหมาะสมสำหรับแต่ละสไตล์ DISC จะช่วยให้สามารถสร้างความเข้าใจและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในสภาพแวดล้อมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การปรับการสื่อสารเพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์ DISC ของบุคคลที่คุณกำลังสื่อสารจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการสร้างความสอดคล้องและความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งในที่สุดในทีมหรือองค์กรของคุณ

DISC แบบไหนที่เหมาะกับการทำงานร่วมกัน

DISC แบบไหนที่เหมาะกับการทำงานร่วมกัน

DISC แบบไหนที่เหมาะกับการทำงานร่วมกัน

การทำงานร่วมกันมักมีความสำคัญที่จะมีความสมดุลระหว่างสไตล์ DISC ต่างๆ เพื่อให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. การทำงานร่วมกันที่ดีระหว่างสไตล์ D และ I: สไตล์ D (Dominance) มักมีลักษณะเป็นผู้นำและมุ่งมั่น ในขณะที่สไตล์ I (Influence) มักมีเสน่ห์และความสามารถในการสร้างความรื่นเริงในทีม การรวมกันของสไตล์เหล่านี้สามารถช่วยสร้างพลังที่มีประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันได้
  2. การทำงานร่วมกันที่ดีระหว่างสไตล์ S และ C: สไตล์ S (Steadiness) มักมีความเข้าใจและความเสถียร ในขณะที่สไตล์ C (Compliance) มักมีความรอบคอบและความพิถีพิถัน การรวมกันของสไตล์เหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นคงและความเสถียรในการทำงาน ทำให้พวกเขามีความสามารถในการทำงานอย่างระมัดระวังและมีความประณีตในงานที่ได้รับมอบหมาย
  3. การทำงานร่วมกันที่ดีลระหว่างสไตล์ D และ C: สไตล์ D มักมีความมั่นใจและความสามารถในการดำเนินการ ในขณะที่สไตล์ C มักมีความรอบคอบและความพิถีพิถัน การรวมกันของสไตล์เหล่านี้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคงในการดำเนินงาน การทำงานร่วมกันของพวกเขาสามารถช่วยให้ทีมทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความสำเร็จได้ในงานที่ท้าทาย
  4. การทำงานร่วมกันที่ดีระหว่างสไตล์ I และ S: สไตล์ I มักมีเสน่ห์และความสามารถในการสร้างความรื่นเริง ในขณะที่สไตล์ S มักมีความเข้าใจและความเสถียร การรวมกันของสไตล์เหล่านี้ช่วยสร้างการสร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ที่ดีในทีม
ความสำคัญของการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพคือการทำให้ทุกคนในทีมเข้าใจและปรับตัวตามสไตล์การทำงานของผู้อื่นได้ เพื่อให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น

การบริหารทีมด้วย DISC

การบริหารทีมด้วย DISC

การบริหารทีมด้วย DISC

การบริหารทีมโดยใช้ระบบ DISC เป็นการใช้ข้อมูลเกี่ยวกับสไตล์บุคลิกภาพของสมาชิกในทีมเพื่อช่วยในการเลือกใช้วิธีการสื่อสารและการบริหารที่เหมาะสมต่อแต่ละบุคคล โดยสามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนดังนี้:

  1. การประเมิน DISC: เริ่มต้นด้วยการใช้เครื่องมือหรือแบบประเมิน DISC เพื่อทราบลักษณะและสไตล์บุคลิกภาพของสมาชิกในทีม โดยการประเมินนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถปรับตัวไปสู่ความต้องการของทีมได้มากขึ้น
  2. วางแผนการสื่อสาร: ใช้ข้อมูลจากการประเมิน DISC เพื่อวางแผนการสื่อสารในทีม โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการสื่อสารที่เหมาะสมต่อแต่ละสไตล์ อาจเป็นการใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย การใช้ตัวช่วยสื่อสารเช่นสื่อสารเชิงตัวอักษรหรือสื่อสื่อสารตามวัฒนธรรม หรือการใช้การสื่อสารแบบไม่ตรงกลุ่ม
  3. การกำหนดหน้าที่และภาระงาน: ขึ้นอยู่กับลักษณะของสมาชิกในทีม การกำหนดหน้าที่และภาระงานที่เหมาะสมตามสไตล์ของพวกเขาจะช่วยให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. การสร้างทีมและการสร้างบรรยากาศ: สร้างทีมที่มีสมาชิกที่มีสไตล์ DISC ที่สมดุลและเสริมกัน เพื่อให้ทีมมีความสมดุลและความสามารถในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
  5. การพัฒนาทักษะและการสนับสนุน: พิจารณาการพัฒนาทักษะและการสนับสนุนสมาชิกในทีมให้เข้าใจและปรับตัวตามสไตล์ DISC ของพวกเขา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการสร้างบรรยากาศทีมที่ดี
  6. การจัดการความขัดแย้ง: ใช้ข้อมูลจากการประเมิน DISC เพื่อช่วยในการจัดการความขัดแย้งในทีม โดยการสร้างความเข้าใจและการรับฟังระหว่างสมาชิกในทีม
การบริหารทีมด้วยระบบ DISC ช่วยให้ผู้นำสามารถเข้าใจและปรับตัวตามลักษณะและความต้องการของสมาชิกในทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์สำคัญในการสร้างทีมที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อมโยงกันอย่างดี
Topprofessional And Development

สถาบันฝึกอบรมและที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์และองค์กร บริการให้คำปรึกษาด้านระบบ ISO แบบครบวงจรด้วยหลักสูตรคุณภาพอาจารย์ผู้สอนมากด้วยประสบการณ์

วันทำการ ( จันทร์ - เสาร์ เวลา 8:00 - 17:00 น. )

ติดตามเรา

icon-facebookicon-lineicon-youtubeicon-tiktok
Copyright 2023 © HERMES Digital Marketing . All Rights Reserved