การเริ่มต้นในงานบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HR) ในฐานะมือใหม่เพื่อก้าวสู่ HR มืออาชีพ (HR for HR Professional) เป็นการท้าทายและมีความสำคัญอย่างมาก การเริ่มต้นในสายอาชีพ HR มือใหม่ ต้องการความพยายามและการทำงานอย่างรอบคอบ เพื่อที่จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเป็น HR Professional ในอนาคตได้
การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่
การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่ นั้นมีแนวโน้มที่เน้นการใช้แนวคิดและวิธีการที่แตกต่างจากแบบแผนเดิม โดยมีลักษณะที่เด่นคือดังนี้
- เป็นไปตาม "แนวนโยบาย" และเชื่อมโยงกับทิศทางขององค์กร การบริหารทรัพยากรมนุษย์ นั้นจะมุ่งเน้นการทำงานให้เป็นไปตามนโยบาย หรือแผนการที่กำหนดไว้ตามทิศทาง หรือวิสัยทัศน์ขององค์กร เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
- ยึดสมรรถนะและพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรและส่งเสริมให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยให้โอกาสและการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาอาชีพ การสร้างสุขภาพที่ดี และการสร้างสมดุลในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน
- เป็นไปตามระบบคุณธรรมแนวใหม่ การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่มุ่งเน้นการปฏิบัติตามค่านิยม และความถูกต้องทางจริยธรรมในการดำเนินงาน เพื่อสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรม และความรับผิดชอบ
- ยึดผลการปฏิบัติงาน การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่มองหาผลการปฏิบัติงานและผลลัพธ์ที่เป็นเชิงลบและเชิงบวกจากพนักงาน เพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานในอนาคต
- ใช้คนน้อยแต่ประสิทธิภาพสูง การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่มักมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพโดยการจัดการและใช้ทรัพยากรให้เกิดผลผลิตสูงสุดโดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากมาย
- เลือกคนเก่งคนดี มุ่งเน้นการสรรหและเลือกบุคคลที่มีความสามารถ และคุณภาพดีเพื่อรับใช้ในองค์กร
- ยืดหยุ่นและหลากหลาย การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่มุ่งเน้นการเป็นอยู่ในสภาวะที่ยืดหยุ่น และสามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์ และเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมธุรกิจ รวมถึงการสนับสนุนความหลากหลายในองค์กร
- มีเจ้าภาพงาน: การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและส่งเสริมการทำงานที่มีเจ้าภาพและความรับผิดชอบต่องานของพนักงาน
โดยการนำแนวคิดและการทำงานตามแนวทางดังกล่าวมาปรับใช้ในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ จะช่วยให้องค์กรมีประสิทธิภาพและเติบโตไปอย่างยั่งยืนในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาวะธุรกิจที่แข่งขันอย่างไม่หยุดยั้ง
HR Function
1. ด้านการพัฒนา (HRD - Human Resource Development)
- มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะและศักยภาพของพนักงาน
- ครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ เช่น:
- การฝึกอบรม: พัฒนาทักษะ ความรู้ และความสามารถของพนักงาน
- การศึกษา: ส่งเสริมการศึกษาต่อและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
- การพัฒนา: สนับสนุนการเติบโตและความก้าวหน้าในสายงานของพนักงาน
- เป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้พนักงานมีประสิทธิภาพและบรรลุศักยภาพสูงสุด
2. ด้านการบริหาร (HRM - Human Resource Management)
- มุ่งเน้นไปที่การจัดการทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ
- ครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ เช่น:
- การสรรหา: ค้นหาและดึงดูดผู้สมัครที่มีความสามารถ
- การคัดเลือก: เลือกผู้สมัครที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน
- การวางตำแหน่งงาน: กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละตำแหน่ง
- การประเมินผลงาน: วัดผลและให้ feedback แก่พนักงาน
- ค่าจ้างค่าตอบแทน: กำหนดระบบเงินเดือน สวัสดิการ และผลประโยชน์
- การวางแผนอัตรากำลัง: คาดการณ์จำนวนพนักงานที่เหมาะสม
- เป้าหมายเพื่อสร้างระบบการบริหารจัดการพนักงานที่มีประสิทธิภาพ สนับสนุนกลยุทธ์ขององค์กร และรักษาแรงจูงใจของพนักงาน
3. ด้านการบริหารแรงงานสัมพันธ์ (HRE - Human Resource Expansion)
- มุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและฝ่ายบริหาร
- ครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ เช่น:
- การสื่อสาร: แจ้งข้อมูล ข่าวสาร และนโยบายต่างๆ แก่พนักงาน
- การเจรจาต่อรอง: หาข้อตกลงร่วมกันระหว่างพนักงานและฝ่ายบริหาร
- การจัดการความขัดแย้ง: แก้ไขปัญหาและความขัดแย้งระหว่างพนักงาน
- การประสานงานกับสหภาพแรงงาน: ทำงานร่วมกับสหภาพแรงงานเพื่อปกป้องสิทธิของพนักงาน
- เป้าหมายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้ออำนวย ส่งเสริมความสามัคคี และบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
ดังนั้น ส่วนของ HR Function ประกอบด้วยการบริหารทรัพยากรมนุษย์ทั้งสามด้านมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในองค์กรอย่างเป็นระบบและมุ่งเน้นให้ความสำเร็จขององค์กรได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสมในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ
การวางแผนทรัพยากรมนุษย์
งานบริหารทรัพยากรมนุษย์ กับการวางแผนทรัพยากรมนุษย์
งานบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Management: HRM) เป็นกระบวนการที่มีระบบเพื่อจัดการพนักงานในองค์กรให้บรรลุเป้าหมายตามที่องค์กรต้องการ ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมหลัก ๆ ดังนี้
1. การวางแผนทรัพยามนุษย์ (Human Resource Planning) กระบวนการวางแผนทรัพยากรมนุษย์เน้นใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประมาณการความต้องการในทรัพยากรมนุษย์ในองค์กรในอนาคต โดยพิจารณาตัวแปรต่าง ๆ เช่น ความต้องการของฝ่ายงานต่าง ๆ และสถานการณ์ภายนอก เพื่อให้สามารถจัดสรรทรัพยากรมนุษย์ให้เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร
- เป็นการคาดการณ์ความต้องการพนักงานในอนาคต
- วิเคราะห์ทักษะและความรู้ที่จำเป็น
- วางแผนกลยุทธ์เพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพ
2. การจัดคนเข้าทำงาน (Recruitment and Selection) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการระบุ และเลือกคนที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานที่ว่างในองค์กร ซึ่งรวมถึงการโฆษณาตำแหน่งงาน การสร้างแหล่งข้อมูลผู้สมัคร การสร้างและดำเนินกระบวนการสัมภาษณ์ และการเลือกคนที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานนั้น ๆ
- ค้นหาและคัดเลือกผู้สมัครที่มีความเหมาะสม
- ออกแบบกระบวนการสรรหาที่มีประสิทธิภาพ
- จัดการ onboarding ให้พนักงานใหม่
3. การฝึกอบรมและพัฒนา (Training and Development) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงานในองค์กร โดยการจัดกิจกรรมฝึกอบรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการปฏิบัติงานและส่งเสริมการเติบโตของพนักงานในองค์กร
- พัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงาน
- ส่งเสริมการเรียนรู้และการเติบโต
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
4. ค่าตอบแทน (Compensation) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการกำหนดระดับค่าตอบแทน และสวัสดิการต่าง ๆ สำหรับพนักงานในองค์กร เพื่อให้มีความเป็นธรรมและเสถียรภาพทางการเงินในองค์กร
- ออกแบบระบบเงินเดือนและสวัสดิการที่ดึงดูดและรักษาพนักงาน
- กำหนดค่าจ้างให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานและประสิทธิภาพ
- บริหารจัดการสวัสดิการให้คุ้มค่า
5. การประเมินผล (Performance Appraisal) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพและผลการทำงานของพนักงานในองค์กร เพื่อให้มีการปรับปรุงและพัฒนาความสามารถของพนักงานต่อไป
- วัดผลและประเมินผลงานของพนักงาน
- ให้ feedback เพื่อการพัฒนา
- ส่งเสริมความยุติธรรมและโปร่งใส
6. รักษาบุคลากร (Retention) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการสร้างบรรยากาศที่ดีในองค์กรเพื่อให้พนักงานต้องการอยู่ในองค์กรอย่างยาวนาน โดยการให้สวัสดิการและโอกาสที่ดีให้กับพนักงาน เพื่อลดการเสียสละและสร้างความผูกพันที่แข็งแกร่งกับองค์กร
- สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี
- ส่งเสริมแรงจูงใจและความพึงพอใจ
- รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงาน
ความสัมพันธ์ระหว่างงานบริหารทรัพยากรมนุษย์ กับการวางแผนทรัพยากรมนุษย์
การวางแผนทรัพยากรมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของงานบริหารทรัพยากรมนุษย์ เป็นการวางรากฐานและกำหนดทิศทางให้กับกิจกรรมอื่น ๆ ของ HRM
ตัวอย่างเช่น
- แผนการสรรหาพนักงานจะต้องสอดคล้องกับแผนการเติบโตขององค์กร
- โปรแกรมฝึกอบรมจะต้องพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับงาน
- ระบบค่าตอบแทนจะต้องดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพ
เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ Career Path
การเติบโตในสายงานทรัพยากรมนุษย์ (HR) มีเส้นทางความก้าวหน้าที่หลากหลายและมักจะขึ้นอยู่กับความสนใจ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของบุคคลในตำแหน่งนั้น ๆ ดังนั้น การกำหนดเส้นทางความก้าวหน้าในสายงาน HR สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนต่อไปนี้
1.กำหนดเงื่อนไขในการเติบโตตามเส้นทางอาชีพ
- ระบุความรู้, ทักษะ, และประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับการเติบโตในตำแหน่งที่ต้องการ
- กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการเติบโตในอาชีพ
2. เขียนแผนผังแสดงเส้นทางความก้าวหน้า
- สร้างแผนผังแสดงเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ HR ที่เป็นไปได้และเป็นที่น่าสนใจสำหรับพนักงาน
- แสดงตำแหน่งและระดับการบริหารทรัพยากรมนุษย์ต่าง ๆ ที่สามารถเข้าถึงได้
3. จัดกลุ่มงานที่มีลักษณะงาน & competency ใกล้เคียงกัน
- สร้างกลุ่มงานที่มีลักษณะงานและความสามารถใกล้เคียงกันไว้ในกลุ่มงานเดียวกัน เพื่อการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
4.วิเคราะห์งานและจัดทำ Job-Position Profile
- ศึกษาและวิเคราะห์งานในกลุ่มงานต่าง ๆ เพื่อเข้าใจความต้องการของตำแหน่งงานและความสามารถที่จำเป็น
- จัดทำโปรไฟล์ตำแหน่งงาน (Job-Position Profile) เพื่อระบุคุณสมบัติและความรับผิดชอบของตำแหน่งงานนั้น
5.ออกแบบเส้นทางความก้าวหน้าสำหรับตำแหน่งเป้าหมาย
- สร้างเส้นทางความก้าวหน้าที่ชัดเจนและเป็นไปได้สำหรับตำแหน่งงานที่เป้าหมาย
- กำหนดแผนการพัฒนาทักษะและการฝึกอบรมที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตในตำแหน่งนั้น ๆ
6.ศึกษาสภาพปัญหาเกี่ยวกับโอกาสและความก้าวหน้าของพนักงาน
- วิเคราะห์ปัญหาและความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในการเติบโตในอาชีพ HR
- ระบุโอกาสและแนวทางในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นเพื่อสร้างเส้นทางความก้าวหน้าที่เหมาะสม
7.ศึกษาโครงสร้างองค์กรและนโยบายด้านบุคคล
- ศึกษาโครงสร้างองค์กรเพื่อเข้าใจโครงสร้างการบริหารทรัพยากรมนุษย์และสายงาน
- ศึกษานโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้เข้าใจแนวทางในการเติบโตในองค์กร
การสร้างเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ HR นี้จะช่วยให้บุคคลที่ทำงานในสายงาน HR เข้าใจและมีแนวทางที่ชัดเจนในการพัฒนาอาชีพของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพและรอบคอบ
บทบาทของ HR และ Line (หัวหน้างาน)
HR และ Line (หัวหน้างาน) ต่างมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมาย โดยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดใน 4 ด้านหลัก ดังนี้
1. Line กับงานด้านสรรหาและคัดเลือก
HR มีบทบาทในการสรรหาและคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานในองค์กร โดยใช้เครื่องมือและกระบวนการที่เหมาะสม เช่น
- การโฆษณาตำแหน่งงาน
- การสร้างรายชื่อผู้สมัครที่เหมาะสม
- การดำเนินการสัมภาษณ์
- กำหนดคุณสมบัติและทักษะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งงาน
- ออกแบบกระบวนการสรรหาและคัดเลือก
- ค้นหาและคัดเลือกผู้สมัคร
Line มีบทบาทในการรับผิดชอบในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของตำแหน่งงาน และคุณสมบัติที่เหมาะสมของผู้สมัคร รวมถึงการมีส่วนร่วมในกระบวนการสรรหาและการคัดเลือกโดยการให้ข้อเสนอแนะหรือการสนับสนุนในการตัดสินใจสุดท้าย เช่น
- ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรและลักษณะงาน
- ร่วมสัมภาษณ์ผู้สมัคร
- ตัดสินใจเลือกผู้สมัคร
2. Line กับงานด้านฝึกอบรมและพัฒนา
HR มีบทบาทในการวางแผนและดำเนินการในการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน โดยสร้าง และดำเนินโปรแกรมการฝึกอบรมที่เหมาะสมกับความต้องการ และวัตถุประสงค์ขององค์กร เช่น
- ออกแบบโปรแกรมการฝึกอบรม
- จัดทำงบประมาณ
- ประเมินผลการฝึกอบรม
Line มีบทบาทในการรับผิดชอบในการเข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรมและการพัฒนาของทีมงาน โดยการสนับสนุนและส่งเสริมพนักงานให้เข้าร่วมโปรแกรมที่เหมาะสมและให้ความสนใจในการพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงาน เช่น
- ระบุความต้องการการฝึกอบรมของพนักงาน
- สนับสนุนให้พนักงานเข้าร่วมการฝึกอบรม
- ประเมินผลลัพธ์ของการฝึกอบรม
3. Line กับงานด้านการจูงใจและรักษา
HR มีบทบาทในการวางแผนและดำเนินการในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจูงใจและการรักษาพนักงานในองค์กร เช่น
- การจัดกิจกรรมสันทนาการ
- การจัดโปรแกรมสวัสดิการ
- การพัฒนาวัฒนธรรมองค์กร
- ออกแบบระบบเงินเดือนและสวัสดิการ
- จัดกิจกรรมส่งเสริมขวัญกำลังใจ
- ดูแลสภาพแวดล้อมการทำงาน
Line มีบทบาทในการสร้างบรรยากาศที่ดีในทีมงาน, การให้การติดตามและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในงานและองค์กร โดยการให้คำแนะนำและการสนับสนุนในการเพิ่มพลังงานและความกระตือรือร้นในทีมงาน เช่น
- ให้ feedback แก่พนักงาน
- มอบหมายงานท้าทาย
- สนับสนุนการเติบโตในสายงาน
4. Line กับงานด้านการบริหารคนให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
HR มีบทบาทในการวางแผนและดำเนินการในระบบการจัดการผลประโยชน์และค่าตอบแทนของพนักงานในองค์กร เพื่อให้มีระบบที่เป็นธรรมและเสถียร เช่น
- กำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติ
- ให้คำปรึกษาแก่หัวหน้างาน
- พัฒนาระบบการบริหารผลงาน
Line มีบทบาทในการให้ข้อมูลและสนับสนุนในกระบวนการบริหารคนให้ได้รับประโยชน์สูงสุด โดยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการและความพึงพอใจของพนักงานต่อระบบบริหารการทำงานและผลประโยชน์ต่าง ๆ ในองค์กร เพื่อให้มีการจัดการที่เหมาะสมและพัฒนาการทำงานของทีมให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นได้ เช่น
- บริหารจัดการงานและพนักงาน
- ประเมินผลงานพนักงาน
- พัฒนาศักยภาพของพนักงาน
ตัวอย่าง
- Line ร่วมสัมภาษณ์ผู้สมัครเพื่อค้นหาผู้ที่มีทักษะและความเหมาะสมกับตำแหน่ง
- Line เสนอแนะโปรแกรมการฝึกอบรมที่พนักงานต้องการ
- Line ให้ feedback แก่พนักงานอย่างสม่ำเสมอ
- Line มอบหมายงานท้าทายและสนับสนุนการเติบโตของพนักงาน
HR และ Line (หัวหน้างาน) ต่างมีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดจะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ประโยชน์ที่หัวหน้างานตามสายงานจะได้รับจากการบริหารบุคคล
ประโยชน์ที่หัวหน้างานตามสายงานจะได้รับจากการบริหารบุคคล
การบริหารบุคคลที่ดีจะส่งผลดีต่อหัวหน้างานในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้
1. มีเวลาบริหารจัดการงานเชิงกลยุทธ์
- การวางแผนกำลังคนที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้หัวหน้างานมีเวลาจัดการงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น
- การมอบหมายงานที่เหมาะสมกับทักษะและความสามารถของพนักงาน ช่วยให้ทำงานเสร็จตามเป้าหมาย
- การพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้พนักงานมีทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำงาน
2. ลดปัญหาการลาออก
- การจูงใจพนักงานด้วยระบบเงินเดือน สวัสดิการ และโอกาสในการเติบโต ช่วยให้รักษาพนักงานที่มีคุณภาพ
- การใส่ใจและให้ความสำคัญกับพนักงาน ช่วยให้พนักงานรู้สึกผูกพันกับองค์กร
- การมีวิธีสร้างความผูกพันระหว่างหัวหน้างานกับพนักงาน ช่วยให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม
3. ได้รับการยอมรับนับถือ และได้ความรู้สึกภาคภูมิใจ
- การบริหารจัดการพนักงานที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้หัวหน้างานได้รับการยอมรับจากลูกน้อง
- การเป็นผู้นำที่ดี ช่วยให้หัวหน้างานได้รับความภาคภูมิใจในผลงานของทีม
4. มีผลงาน (Productivity) สูงอันเกิดจากได้รับความร่วมมือ
- การบริหารบุคคลที่ดี ช่วยให้พนักงานมีแรงจูงใจและทำงานอย่างเต็มศักยภาพ
- การมีทีมที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทำงานเสร็จตามเป้าหมายและบรรลุเป้าหมายขององค์กร
ตัวอย่าง
- หัวหน้างานที่บริหารบุคคลได้ดี สามารถวางแผนกำลังคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีพนักงานเพียงพอสำหรับงานแต่ละประเภท
- หัวหน้างานที่ใส่ใจและให้ความสำคัญกับพนักงาน พนักงานจะรู้สึกผูกพันกับองค์กรและมีแรงจูงใจทำงาน
- หัวหน้างานที่เป็นผู้นำที่ดี พนักงานจะเคารพและยอมรับ ช่วยให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
สรุป
การบริหารบุคคลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหัวหน้างาน การบริหารบุคคลที่ดีจะส่งผลดีต่อหัวหน้างานในหลาย ๆ ด้าน หัวหน้างานควรให้ความสำคัญกับการบริหารบุคคลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและบรรลุเป้าหมายขององค์กร