การวางแผนงานสำหรับหัวหน้างาน (Planning for Supervisor) คือ กระบวนการที่ผู้บริหาร หรือผู้ควบคุม ใช้ในการกำหนดแผน และกิจกรรมที่เหมาะสมเพื่อให้งานที่ดำเนินไปมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
การวางแผนงานสำหรับหัวหน้างาน นั้นจะมุ่งเน้นการบริหารทีม การกำหนดเป้าหมายของทีม ให้สมารถปฏิบัติงานได้อย่างราบรื่นภายในระยะเวลาที่กำหนด อีกทั้งต้องทำการจัดทำแผนการดำเนินงาน การกำหนดสิ่งที่ต้องทำ และการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการทำให้เสร็จสมบูรณ์
นอกจากนี้ การวางแผนยังรวมถึงการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานเพื่อให้สามารถปรับปรุงและปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานตามสถานการณ์และสภาพการณ์ในทุกๆ ขณะได้ให้ผลการดำเนินงานที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ความสำคัญของแผน
การวางแผน เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรหรือทีมงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในระยะยาว
- ช่วยให้กำหนดเป้าหมายและทิศทาง การวางแผนช่วยในการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและทิศทางที่เหมาะสมสำหรับองค์กร ซึ่งช่วยให้องค์กรมุ่งมั่นและทำงานไปในทิศทางที่ถูกต้อง
- เพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ การวางแผนที่ดีช่วยให้องค์กรมีโอกาสสูงขึ้นในการประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีการกำหนดแผนการดำเนินงานที่เป็นระเบียบและมีการวางแผนที่คำนึงถึงความเป็นไปได้และข้อเสี่ยง
- สร้างความมั่นคงและเสถียรภาพ การวางแผนเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องและช่วยให้องค์กรมีความมั่นคงและเสถียรภาพในการดำเนินงาน โดยทำให้องค์กรมีความเต็มใจและมั่นใจในทิศทางที่กำลังเดินทาง
- สนับสนุนการตัดสินใจที่ดีขึ้น การวางแผนช่วยให้นักบริหารตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีข้อมูลและข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้การตัดสินใจมีความสมเหตุสมผล
- สร้างภาพลักษณ์ขององค์กรที่ดีในตลาด การวางแผนที่มีประสิทธิภาพช่วยสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรในตลาด ซึ่งช่วยเพิ่มความไว้วางใจจากลูกค้า พาร์ทเนอร์ และผู้ลงทุน
ความสำคัญของยุทธศาสตร์ / กลยุทธ์
ความสำคัญของยุทธศาสตร์และกลยุทธ์มีอยู่หลายด้าน เพื่อให้เห็นภาพรวม เราจะอธิบายถึงความสำคัญของยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ ดังนี้
การวางแผนกลยุทธ์เป็นการกำหนดผลลัพธ์ (Outcomes) และผลงาน (Outputs) ที่สอดรับกับสภาพแวดล้อมภายนอกขององค์การ
ที่ต้องการให้องค์กรบรรลุในระยะยาว โดยทั้งผลลัพธ์และผลงานจะถูกออกแบบให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมภายนอกขององค์กรด้วย เพื่อให้องค์กรมีความเสถียร และสามารถปรับตัวตามสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ความสำคัญของการวางแผนกลยุทธ์ในการกำหนดผลลัพธ์และผลงานที่สอดรับกับสภาพแวดล้อมภายนอกขององค์กร มีดังนี้
- การกำหนดผลลัพธ์ (Outcomes) การวางแผนกลยุทธ์จะช่วยในการกำหนดผลลัพธ์หรือผลที่ต้องการให้องค์กรบรรลุในระยะยาว โดยใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น ความต้องการของตลาด ความเปลี่ยนแปลงในกฎหมาย หรือนโยบายรัฐบาล หรือความเปลี่ยนแปลงในความต้องการหรือพฤติกรรมของลูกค้า
- การกำหนดผลงาน (Outputs) การวางแผนกลยุทธ์จะช่วยในการกำหนดผลงานที่ต้องให้กับองค์กร เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยผลงานที่กำหนดนั้นจะเป็นกิจกรรมหรือผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้องค์กรบรรลุผลลัพธ์เหล่านั้น เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เปิดตลาดใหม่ หรือพัฒนาการตลาดและการตลาดใหม่
การวางแผนกลยุทธ์ เป็นกระบวนการที่สำคัญ เพื่อให้องค์กรมีความรอบคอบและมุ่งสู่ทิศทางที่เหมาะสมในการพัฒนา การกำหนดผลลัพธ์ และผลงานที่สอดรับกับสภาพแวดล้อมภายนอก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรมีการเติบโตและประสบความสำเร็จในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การกำหนดผลลัพธ์และผลงานที่ชัดเจน เป็นขั้นตอนสำคัญที่นำไปสู่การกำหนดกระบวนการ (Processes) ในการดำเนินงานและลู่ทางในการจัดสรรทรัพยากรด้านต่างๆ (Inputs) ที่สอดคล้องกัน ได้ดังนี้
- กำหนดกระบวนการ (Processes) ผลลัพธ์และผลงานที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์จะช่วยในการกำหนดกระบวนการหรือขั้นตอนการดำเนินงานที่จำเป็นในการทำให้ผลลัพธ์เหล่านั้นเป็นจริง การวางแผนกระบวนการเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรมีวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับเป้าหมายและแผนกลยุทธ์ที่กำหนดไว้
- การจัดสรรทรัพยากร (Resource Allocation) ผลลัพธ์และผลงานที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์จะมีผลต่อการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ในองค์กร เช่น ทรัพยากรมนุษย์ เงินทุน เทคโนโลยี และอื่น ๆ การวางแผนการจัดสรรทรัพยากรเหล่านี้ต้องเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับกระบวนการและผลลัพธ์ที่ต้องการ
- การเตรียมลู่ทาง (Pathways) การกำหนดผลลัพธ์และผลงานที่ชัดเจนจะช่วยให้องค์กรสามารถเตรียมลู่ทางหรือแผนการดำเนินงานที่เหมาะสมในการบรรลุผลลัพธ์เหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การกำหนดตารางการ การวางแผนงานโครงการ และการกำหนดกลยุทธ์ดำเนินการ
- การติดตามและประเมินผล กระบวนการติดตามและประเมินผลจะช่วยให้องค์กรสามารถทราบว่ากระบวนการและการจัดสรรทรัพยากรที่ดำเนินไปนั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่ และสามารถปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและสภาพการณ์ในขณะนั้น
ดังนั้น การกำหนดผลลัพธ์และผลงานที่ชัดเจน เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่กระบวนการและการจัดสรรทรัพยากรที่สอดคล้องต่อกันอย่างเหมาะสมในองค์กร เพื่อให้องค์กรมีการดำเนินงานไปในทิศทางที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
การวางแผนกลยุทธ์ดี
การวางแผนกลยุทธ์ที่ดีควรสอดคล้องกับหลักการของประสิทธิผล (effectiveness) ประสิทธิภาพ (efficiency) ประหยัด (economy) เป็นธรรม (equity) พลังการทำงาน (empowerment) และความผูกพัน (engagement) เพื่อให้องค์กรประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน
- ประสิทธิผล (Effectiveness) การวางแผนกลยุทธ์ควรเน้นให้เป้าหมายและผลลัพธ์ที่ตั้งไว้สามารถบรรลุได้จริง โดยให้คำนึงถึงความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร
- ประสิทธิภาพ (Efficiency) การวางแผนควรเน้นใช้ทรัพยากรในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดการสูญเสียของทรัพยากรที่ไม่จำเป็นและเพิ่มผลผลิตต่อหน่วยทรัพยากรที่ใช้
- ประหยัด (Economy) การวางแผนควรใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพและจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมกับความต้องการของงาน โดยมีการคำนึงถึงความสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายและผลผลิต
- เป็นธรรม (Equity) การวางแผนควรเน้นให้การกระทำและผลประโยชน์เป็นธรรมและเท่าเทียมกันต่อทุกคนในองค์กร โดยไม่มีความเล่ห์เหลี่ยมหรือความยุติธรรมในการจัดสรรทรัพยากร
- พลังการทำงาน (Empowerment) การวางแผนควรส่งเสริมพลังและความสามารถให้กับบุคลากรในองค์กร เพื่อให้พวกเขามีความมั่นใจและความสามารถในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- ความผูกพัน (Engagement) การวางแผนควรสร้างความผูกพันและความร่วมมือในทีมงาน โดยส่งเสริมการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการบรรลุเป้าหมายขององค์กร
ด้วยการสร้างแผนกลยุทธ์ที่ดี และสอดคล้องกับหลักการนี้ องค์กรจะมีโอกาสประสบความสำเร็จและความยั่งยืนในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีความสำเร็จในระยะยาวได้มากขึ้น
ความหมายของการวางแผนกลยุทธ์
การวางแผนกลยุทธ์ หมายถึง กระบวนการที่ใช้ในการกำหนดและระบุเป้าหมายระยะยาวขององค์กร และวิธีการที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น โดยมีการใช้ทรัพยากรต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมภายนอกและภายในขององค์กร
การวางแผนกลยุทธ์ จะเน้นที่การกำหนดทิศทางหลักขององค์กรและการเข้าใจความต้องการของตลาดหรือกลุ่มเป้าหมาย โดยมุ่งเน้นให้การดำเนินงานและการใช้ทรัพยากรต่างๆ เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายและวิสัยทัศน์ขององค์กรในระยะยาว
การวางแผนกลยุทธ์ จะรวมถึงขั้นตอนการกำหนดเป้าหมาย การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกและภายใน การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม การวางแผนการดำเนินงาน และการประเมินผลและปรับปรุงในอนาคต เพื่อให้องค์กรสามารถประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความแข็งแกร่งในการแข่งขัน
ทำไมต้องมีการบริหารเชิงกลยุทธ์
การบริหารเชิงกลยุทธ์ มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีผลเชิงบวกต่อการดำเนินงาน และความสำเร็จขององค์กร ได้ดังนี้
- จุดมุ่งหมายที่ชัดเจน การมีกลยุทธ์ช่วยกำหนดและระบุเป้าหมายที่ชัดเจนขององค์กร ทำให้ทุกคนในองค์กรเข้าใจและร่วมมือกันในการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นๆ โดยมีทิศทางที่ชัดเจนและเป็นไปตามวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กร
- การเลือกวิธีการที่เหมาะสม การมีกลยุทธ์ช่วยให้องค์กรสามารถเลือกและใช้วิธีการที่เหมาะสมและเหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานและประสบความสำเร็จ
- ความชัดเจนในภารกิจและบทบาท การมีกลยุทธ์ช่วยเน้นให้มีความชัดเจนในภารกิจและบทบาทที่เกี่ยวข้องของบุคคลในองค์กร ทำให้ทุกคนเข้าใจสิ่งที่ต้องทำและมีส่วนร่วมในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- แนวทางในการวัดและประเมินผลสำเร็จ การมีกลยุทธ์ช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดแนวทางในการวัดและประเมินผลสำเร็จได้อย่างชัดเจน ทำให้องค์กรสามารถทราบว่าก้าวที่ก้าวไปสู่เป้าหมายหรือไม่และสามารถปรับปรุงได้ตามความเหมาะสม
ขั้นตอนการวางแผนกลยุทธ์
1.การกำหนดกลยุทธ์ (Strategy Formulation)
- วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกและภายใน ศึกษาและเข้าใจสภาพการณ์ของตลาด และวิเคราะห์ปัจจัยภายในองค์กรเพื่อค้นหาความแข็งแกร่งและจุดอ่อนที่จะพิจารณาในการกำหนดกลยุทธ์
- กำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมาย กำหนดทิศทางหรือวิสัยทัศน์ในระยะยาวขององค์กร และกำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้กลยุทธ์นั้นสามารถบรรลุได้
2.การดำเนินกลยุทธ์ (Strategy Implementation):
- วางแผนการดำเนินงาน กำหนดขั้นตอนและกิจกรรมที่จะทำเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ รวมถึงการจัดทรัพยากรที่จำเป็น เช่น งบประมาณ บุคลากร และเวลา
- การนำส่ง นำแผนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติงาน และการดำเนินการตามแผน
3.การประเมินกลยุทธ์ (Strategy Evaluation):
- ติดตามและวัดผล ตรวจสอบและวัดผลการดำเนินงานเพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ได้ทำงานอย่างเหมาะสม โดยใช้ตัวชี้วัดที่ชัดเจนและเหมาะสมกับเป้าหมาย
- การประเมินผล วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจากการติดตามและวัดผล เพื่อปรับปรุงแผนกลยุทธ์และกิจกรรมในอนาคต
ขั้นตอนเหล่านี้ช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดทิศทางและวิธีการที่เหมาะสมในการทำงาน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
POLC กระบวนการในการจัดการและบริหารองค์กร
POLC เป็นกระบวนการหรือขั้นตอนที่ใช้ในการจัดการและบริหารองค์กร โดยปกติแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลัก ๆ คือ Planning (วางแผน), Organizing (จัดระบบ), Leading (การนำ), และ Controlling (การควบคุม) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการดำเนินการใด ๆ ในองค์กร ดังนี้
- วางแผน (Planning) การกำหนดเป้าหมายและวิธีการในการทำงาน เช่น การวางแผนกลยุทธ์, การวางแผนงบประมาณ, และการวางแผนการดำเนินงาน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนในองค์กรมีทิศทางที่ชัดเจนในการดำเนินงาน
- จัดระบบ (Organizing) การกำหนดโครงสร้างและการจัดทำระบบในองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่ามีการจัดทำทรัพยากรที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล
- การนำ (Leading) การสร้างและส่งเสริมทีมงานให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการให้กำลังใจ, การเลี้ยงบุคลากร, และการชักชวนเพื่อให้ผู้คนมุ่งมั่นที่จะทำงานในทิศทางที่ถูกต้อง
- การควบคุม (Controlling) การติดตามและวัดผลการดำเนินงาน เพื่อตรวจสอบว่ากิจกรรมต่าง ๆ ได้ดำเนินไปตามแผนหรือไม่ และปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนกิจกรรมตามความจำเป็นต่อไป
POLC เป็นกระบวนการที่สำคัญในการบริหารและจัดการองค์กร เพราะช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานมีโครงสร้างและแนวทางที่ชัดเจนในการดำเนินงาน และช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายและวิสัยทัศน์ขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7 องค์ประกอบของแผนกลยุทธ์
- ภารกิจ (Mission) เป็นคำอธิบายเกี่ยวกับเหตุผลหลักที่องค์กรก่อตั้งขึ้นมา และกำหนดส่วนที่สำคัญของกิจกรรมหรือบริการที่องค์กรจะให้แก่กลุ่มเป้าหมายของตน
- ค่านิยมหลัก (Core Values) กำหนดค่านิยม หรือทฤษฎีบทที่องค์กรยึดถือเป็นหลักและมีความสำคัญสูงสุดในการดำเนินงานของตน
- วิสัยทัศน์ (Vision) เป็นภาพเห็นรายละเอียดขององค์กรเกี่ยวกับสิ่งที่องค์กรต้องการเป็นในอนาคต และบ่งบอกถึงทิศทางหรือเส้นทางที่องค์กรต้องการเดินไป
- SWOT Analysis การวิเคราะห์จุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) โอกาส (Opportunities) และอุปสรรค (Threats) ขององค์กร เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ภายในและภายนอกที่มีผลต่อการดำเนินงาน
- เป้าหมายระยะยาว (Long-term Goals) เป้าหมายหรือเป้าหมายที่ต้องการบรรลุในระยะยาว เช่น การเพิ่มกำไร การขยายตลาด หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
- วัตถุประสงค์รายปี (Yearly Objectives) เป็นเป้าหมายที่ต้องการบรรลุในระยะสั้น ๆ หรือในช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อช่วยให้สามารถก้าวไปสู่เป้าหมายระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แผนปฏิบัติการ (Action Plan) การกำหนดกิจกรรมหรือขั้นตอนการดำเนินงานที่ต้องทำเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบุเวลา ทรัพยากร และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในแต่ละกิจกรรม
สรุป
การวางแผนงานสำหรับหัวหน้างาน เป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมความสำเร็จขององค์กรโดยทั่วไปให้มั่นใจว่าทุกกิจกรรมและการใช้ทรัพยากรได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงาน