บทความ

การประเมินความเสี่ยงตามข้อกำหนดระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015

ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการช่วยองค์กรในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของตนให้มีผลต่อสิ่งแวดล้อมโดยมีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มาตรฐาน ISO 14001:2015 เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างและบำรุงรักษาระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบนี้ต้องมีการประเมินความเสี่ยงเพื่อทำให้สามารถรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม

HR-ODTHAI เราจะพูดถึงขั้นตอนในการประเมินความเสี่ยงตามข้อกำหนดของมาตรฐาน ISO 14001:2015 ดังต่อไปนี้

การประเมินความเสี่ยงตามข้อกำหนดระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015 คือ

การประเมินความเสี่ยงตามข้อกำหนดระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015

การประเมินความเสี่ยงตามข้อกำหนดระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015

การประเมินความเสี่ยงตามข้อกำหนดระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015 คือกระบวนการที่องค์กรใช้เพื่อระบุ วิเคราะห์ และจัดการความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ISO 14001:2015 ความเสี่ยงและโอกาส

 ISO 14001:2015 ความเสี่ยงและโอกาส

ISO 14001:2015 ความเสี่ยงและโอกาส

ตามมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015 องค์กรจำเป็นต้องพิจารณาถึง ความเสี่ยง และ โอกาส ที่เกี่ยวข้องกับบริบทขององค์กร

ความเสี่ยง หมายถึง เหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ที่องค์กรตั้งใจไว้ ผลกระทบอาจเป็นด้านบวกหรือด้านลบ

โอกาส หมายถึง เหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นบวกสำหรับองค์กร

วัตถุประสงค์ของการบริหารความเสี่ยง

วัตถุประสงค์ของการบริหารความเสี่ยง

วัตถุประสงค์ของการบริหารความเสี่ยง

การบริหารความเสี่ยง มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ

1. ลดภาวะความเสี่ยง (Reduce Risk)

วัตถุประสงค์หลักของการบริหารความเสี่ยงคือ การลดความเสี่ยง ที่อาจส่งผลกระทบต่อองค์กร ซึ่งองค์กรสามารถลดความเสี่ยงได้หลายวิธี เช่น

  • การป้องกัน หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยง
  • การลดหย่อน ปรับเปลี่ยนกระบวนการหรือกิจกรรมเพื่อลดโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยง
  • การถ่ายโอน โอนความเสี่ยงให้กับบุคคลที่สาม เช่น บริษัทประกันภัย
  • การเก็บสำรอง เตรียมเงินทุนไว้เผื่อไว้สำหรับความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

2. เพิ่มศักยภาพ (Increase Potential Opportunities)

  • การบริหารความเสี่ยง ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การลดความเสี่ยงเพียงอย่างเดียว
  • แต่ยังมุ่ง หาโอกาส ที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงด้วย
  • องค์กรสามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงเพื่อระบุโอกาสใหม่ ๆ
  • และตัดสินใจว่าจะคว้าโอกาสเหล่านั้นหรือไม่

3. ลดความไม่แน่นอนของผลลัพธ์ (Reduce Overall Uncertainty)

  • การบริหารความเสี่ยง ช่วยให้ ลดความไม่แน่นอน ของผลลัพธ์
  • องค์กรสามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้
  • และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน
  • การลดความไม่แน่นอน ช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น

นอกจากนี้ การบริหารความเสี่ยงยังมีวัตถุประสงค์อื่น ๆ ดังนี้

  • ปกป้ององค์กรจากความสูญเสียทางการเงิน
  • รักษาชื่อเสียง
  • สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า นักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสีย
  • ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่มีความรับผิดชอบและโปร่งใส
  • สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
การบริหารความเสี่ยงมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร ช่วยให้บรรลุเป้าหมาย ปกป้ององค์กร และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

การบริหารความเสี่ยงมีองค์ประกอบหลัก 8 ประการ ดังนี้

1. สภาพแวดล้อมภายใน (Internal Environment : IE)

  • องค์ประกอบนี้หมายถึง ปัจจัยภายในองค์กรที่อาจส่งผลต่อความเสี่ยง เช่น
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • โครงสร้างองค์กร
  • ทรัพยากรบุคคล
  • เทคโนโลยี
  • กระบวนการทำงาน
  • ระบบควบคุมภายใน

2. การกำหนดวัตถุประสงค์ (Objective Setting : OS)

  • องค์กรจำเป็นต้องกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน วัดผลได้ และสอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กร
  • วัตถุประสงค์เหล่านี้ใช้เป็นแนวทางในการระบุ ประเมิน และจัดการความเสี่ยง

3. การระบุเหตุการณ์ (Event Identification : El)

  • องค์กรต้องระบุเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อวัตถุประสงค์ขององค์กร
  • เหตุการณ์เหล่านี้อาจมาจากทั้งภายในและภายนอกองค์กร
  • ตัวอย่างของเหตุการณ์ เช่น
  • ภัยธรรมชาติ
  • อุบัติเหตุ
  • การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย
  • การแข่งขัน
  • ความเสี่ยงด้านการเงิน

4. การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment : RA)

  • องค์กรต้องประเมินความน่าจะเป็นและผลกระทบของเหตุการณ์แต่ละประการ
  • ความน่าจะเป็น หมายถึง โอกาสที่เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น
  • ผลกระทบ หมายถึง ความรุนแรงของผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น
  • องค์กรสามารถใช้เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ ในการประเมินความเสี่ยง เช่น
  • การวิเคราะห์ SWOT
  • การวิเคราะห์ต้นไม้ตัดสินใจ
  • การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม

5. การตอบสนองความเสี่ยง (Risk responses : RR)

  • องค์กรต้องกำหนดกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อความเสี่ยงแต่ละประการ กลยุทธ์เหล่านี้อาจรวมถึง
  • การหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
  • การลดหย่อนความเสี่ยง
  • การถ่ายโอนความเสี่ยง
  • การเก็บสำรอง

6. กิจกรรมควบคุม (Control Activities : CA)

  • องค์กรต้องกำหนดกิจกรรมควบคุมเพื่อลดความเสี่ยง กิจกรรมควบคุมเหล่านี้อาจรวมถึง
  • นโยบายและแนวทางปฏิบัติ
  • กระบวนการทำงาน
  • ระบบควบคุมภายใน
  • เทคโนโลยี
  • การฝึกอบรมพนักงาน

7. สารสนเทศและการสื่อสาร(Information and Communication : IC)

  • องค์กรต้องมีระบบสารสนเทศและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
  • เพื่อให้แน่ใจว่าผู้มีส่วนได้เสียทุกคนทราบถึงความเสี่ยง กลยุทธ์ และกิจกรรมควบคุม
  • การสื่อสารที่ดีช่วยให้มั่นใจว่าทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหารความเสี่ยง

8. การติดตามผล (Monitoring : M)

  • องค์กรต้องติดตามผลการดำเนินงานของกลยุทธ์และกิจกรรมควบคุม
  • ประเมินความเสี่ยงอยู่เสมอ
  • ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และกิจกรรมควบคุมตามความจำเป็น
โดยสรุป องค์ประกอบทั้ง 8 ประการนี้ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้องค์กรระบุ ประเมิน จัดการ และควบคุมความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระดับโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง (Likelihood)

การกำหนดเกณฑ์การประเมินมาตรฐาน

การกำหนดเกณฑ์การประเมินมาตรฐาน

การกำหนดเกณฑ์การประเมินมาตรฐาน หมายถึง กระบวนการกำหนดข้อกำหนดที่ชัดเจน วัดผลได้ และตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อใช้ในการประเมินว่าผลิตภัณฑ์ บริการ กระบวนการ หรือระบบ เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้หรือไม่

ระดับโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง (Likelihood) หมายถึง โอกาสหรือความน่าจะเป็นที่ความเสี่ยงจะเกิดขึ้น องค์กรสามารถประเมินระดับโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงได้หลายวิธี เช่น

  • การวิเคราะห์ข้อมูลในอดีต: วิเคราะห์ข้อมูลในอดีตเพื่อดูว่าเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันเคยเกิดขึ้นหรือไม่ และเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน
  • การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม: วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกองค์กร เพื่อระบุปัจจัยที่อาจส่งผลต่อโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง
  • การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในด้านความเสี่ยง เพื่อขอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
  • การใช้แบบจำลองความเสี่ยง: ใช้แบบจำลองความเสี่ยงเพื่อคาดการณ์โอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง

การจัดการความเสี่ยงตามระดับโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง

องค์กรควรจัดการความเสี่ยงตามระดับโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง ดังนี้

  • ความเสี่ยงระดับต่ำ: องค์กรอาจไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ แต่ควรติดตามความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
  • ความเสี่ยงระดับปานกลาง: องค์กรควรวางแผนและเตรียมพร้อมสำหรับความเสี่ยง อาจรวมถึงการกำหนดมาตรการควบคุม หรือสำรองเงินทุนไว้เผื่อไว้
  • ความเสี่ยงระดับสูง: องค์กรควรหลีกเลี่ยงหรือลดความเสี่ยง อาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ หรือลงทุนในมาตรการควบคุมที่เข้มงวด
  • ความเสี่ยงระดับสูงมาก: องค์กรควรหยุดดำเนินการที่อาจส่งผลต่อความเสี่ยง และหาทางเลือกอื่น
ระดับโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง เป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินความเสี่ยง องค์กรควรประเมินระดับโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงอย่างถูกต้อง และจัดการความเสี่ยงตามระดับความเสี่ยง

ระดับผลกระทบความเสี่ยง (Impact)

ระดับผลกระทบความเสี่ยง (Impact)

ระดับผลกระทบความเสี่ยง (Impact)

ระดับผลกระทบความเสี่ยง (Impact) หมายถึง ความรุนแรงหรือระดับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หากความเสี่ยงเกิดขึ้น องค์กรสามารถประเมินระดับผลกระทบความเสี่ยงได้หลายวิธี เช่น

  • การวิเคราะห์ผลกระทบทางการเงิน: ประเมินผลกระทบทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น เช่น การสูญเสียรายได้ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือความเสียหายต่อสินทรัพย์
  • การวิเคราะห์ผลกระทบต่อชื่อเสียง: ประเมินผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์กร
  • การวิเคราะห์ผลกระทบต่อการดำเนินงาน: ประเมินผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์กร เช่น การหยุดชะงักของธุรกิจ หรือการสูญเสียลูกค้า
  • การวิเคราะห์ผลกระทบทางกฎหมาย: ประเมินผลกระทบทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น เช่น การปรับ หรือคดีความ

การจัดการความเสี่ยงตามระดับผลกระทบความเสี่ยง

องค์กรควรจัดการความเสี่ยงตามระดับผลกระทบความเสี่ยง ดังนี้

  • ความเสี่ยงระดับต่ำ องค์กรอาจไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ แต่ควรติดตามความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
  • ความเสี่ยงระดับปานกลาง องค์กรควรวางแผนและเตรียมพร้อมสำหรับความเสี่ยง อาจรวมถึงการกำหนดมาตรการควบคุม หรือสำรองเงินทุนไว้เผื่อไว้
  • ความเสี่ยงระดับสูง องค์กรควรหลีกเลี่ยงหรือลดความเสี่ยง อาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ หรือลงทุนในมาตรการควบคุมที่เข้มงวด
  • ความเสี่ยงระดับสูงมาก องค์กรควรหยุดดำเนินการที่อาจส่งผลต่อความเสี่ยง และหาทางเลือกอื่น

การวิเคราะห์ความเสี่ยง คือ

การวิเคราะห์ความเสี่ยง คือ

การวิเคราะห์ความเสี่ยง คือ

การวิเคราะห์ความเสี่ยง หมายถึง กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่มีขั้นตอนเป็นระบบ ให้เหตุผล ข้อมูล และสร้างความมั่นใจ ใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อลดความเสี่ยงอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

การจัดลำดับความเสี่ยง (Risk Prioritization)

การจัดลำดับความเสี่ยง หมายถึง กระบวนการจัดอันดับความสำคัญของความเสี่ยงแต่ละประการ ตามความน่าจะเป็นและผลกระทบ เพื่อกำหนดว่าความเสี่ยงใดที่องค์กรควรให้ความสำคัญและจัดการก่อน

จัดทำแผนภูมิความเสี่ยง (Risk Map)

แผนภูมิความเสี่ยง (Risk Map) เป็นเครื่องมือที่ใช้แสดงภาพความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยง ความน่าจะเป็น และผลกระทบ ช่วยให้องค์กรมสามารถมองเห็นภาพรวมของความเสี่ยง เข้าใจความเสี่ยงแต่ละประการ และตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล

การประเมินโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยง

การประเมินโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยง

การประเมินโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยง

การประเมินโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยง (Risk Assessment) เป็นกระบวนการสำคัญในการบริหารความเสี่ยง ช่วยให้องค์กรระบุ วิเคราะห์ และจัดการความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเป้าหมาย กลยุทธ์ หรือการดำเนินงาน

ขั้นตอนการประเมินโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยง

การประเมินโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยง โดยทั่วไปมีขั้นตอนดังนี้

1. ระบุความเสี่ยง

  • ค้นหาเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อวัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์
  • ใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การระดมความคิด การวิเคราะห์ SWOT การวิเคราะห์ต้นไม้ตัดสินใจ

2. วิเคราะห์ความเสี่ยง

  • ประเมินความน่าจะเป็น ประเมินโอกาสที่ความเสี่ยงแต่ละประการจะเกิดขึ้น
  • ใช้วิธีการต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลในอดีต การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การใช้แบบจำลองความเสี่ยง
  • ประเมินผลกระทบ ประเมินความรุนแรงหรือระดับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หากความเสี่ยงเกิดขึ้น
  • ใช้วิธีการต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ผลกระทบทางการเงิน การวิเคราะห์ผลกระทบต่อชื่อเสียง การวิเคราะห์ผลกระทบต่อการดำเนินงาน การวิเคราะห์ผลกระทบทางกฎหมาย

3. จัดลำดับความเสี่ยง

  • จัดอันดับความสำคัญของความเสี่ยงแต่ละประการ ตามความน่าจะเป็นและผลกระทบ
  • ใช้วิธีการต่างๆ เช่น เมทริกซ์ความเสี่ยง การวิเคราะห์ต้นไม้ตัดสินใจ ซอฟต์แวร์การจัดการความเสี่ยง

4. จัดการความเสี่ยง

  • กำหนดกลยุทธ์เพื่อลดหรือกำจัดความเสี่ยง
  • กลยุทธ์ทั่วไป เช่น การหลีกเลี่ยงความเสี่ยง การลดหย่อนความเสี่ยง การถ่ายโอนความเสี่ยง และการเก็บสำรอง
  • เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงแต่ละประการ

5. ติดตามผลและประเมินผล

  • ติดตามผลการดำเนินงานของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง
  • ประเมินผลของกลยุทธ์
  • ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามความจำเป็น

สรุป

การประเมินความเสี่ยงตามข้อกำหนดระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015 เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับองค์กรทุกขนาดที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กระบวนการนี้ช่วยให้องกรสามารถระบุ ป้องกัน และจัดการความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

Topprofessional And Development

สถาบันฝึกอบรมและที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์และองค์กร บริการให้คำปรึกษาด้านระบบ ISO แบบครบวงจรด้วยหลักสูตรคุณภาพอาจารย์ผู้สอนมากด้วยประสบการณ์

วันทำการ ( จันทร์ - เสาร์ เวลา 8:00 - 17:00 น. )

ติดตามเรา

icon-facebookicon-lineicon-youtubeicon-tiktok
Copyright 2023 © HERMES Digital Marketing . All Rights Reserved